Thailand Web Stat Truehits.net
аёаёІаёўа№ЂаёаёЈаёа№Ђаёаёа№ЂаёЄаёаёўаёаёЎаёаёаёЄаёаё

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - acare

หน้า: 1
1
พี่ครับ เหนเขาว่ากันว่าไดร์นิสสันมาร์ช150Aดีกว่าไดร์บอส ไดร์เจ จิงปะค๊าฟพี่  ขอบคุนร่วงน่าค๊าฟผม ^_^

มันอาจจะดีกันคนละอย่างนะครับ ไดร์นิสสันนั้น ขึ้นชื่อว่าชาร์จไว นิ่ง และรอบต่ำ
ไดร์เจก็เช่นกันครับ ส่วนไดร์บอส เสียเปรียบเรื่องกินรอบสูงคร้บ
แต่...สิ่งนึงที่ผมอยากให้่ลองพิจารณาดูนะครับ ไดร์มาร์ชจะจ่าย150aจริงรึเปล่า? อิอิ
ลองมองแบบนี้นะครับ รถก็เล็ก แบตก็ลูกนิดเดียว 50aเห็นจะได้ ไดร์ก็ลูกเล็กนิดเดียว จะถึงเหรอรครับ 150a 5555 เป็นปริศนาขำๆนะครับ
ถ้าจะเล่นนิสสันจริงๆ แนะนำตัวนอกครับ แน่นอนกว่าครับผม

ผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันครับ ว่าจะจ่ายได้ถึง 150A. จริงหรือเปล่า

2
แร้วผมจะหาค่าพารามิเตอร์ลำโพง ได้ยังไงค๊าฟผม  ไม่รู้จิงๆค๊าฟ....^^"

หาจากผู้จัดจำหน่ายหรือวัดด้วยเครื่องมือวัดค่าพารามิเตอร์ลำโพง WT2,WT3 ครับ

3
ล่าสุดคุณรัน จะเป็นวิทยากรอบรมเรื่องเกี่ยวกับไดชาร์จ สนใจติดต่อได้ที่คุณรัน เลยครับ

5
ถ้าจะตีตู้12"หลังกระบะ แบบพอดออกหันไปทางฝาท้าย จะไช้ตู้แบบไหนจึงจะออกดีที่สุดค๊าฟ แร้วเสียง จะดังสู้ลงพื้นได้รึป่าวค๊าฟ  รบกวนผู้รู้ทีค๊าฟผม อยากลองทัมแต่ไม่รู้จะใช้ตู้แบบไหนดีอะค๊าฟ  ดอก12" EXAD วอย3 แม่เหล็ก2ก้อน25" 200   power EXAD 2500.1D   ขอบคุนล่วงน่าสำหรับทุกคำแนะนำค๊าฟผม ^_^
ถ้าเปนไปได้ขอปริมาตรห้องหน้า แระ หลัง ด้วยเรยก๊ดีค๊าฟผม ^^"

มีสองแบบให้เลือกครับ บังเกอร์กับแบนด์พาส ออร์เดอร์ 6 แต่ปริมาตรยังตอบไม่ได้ครับ จะต้องมีค่าพารามิเตอร์ลำโพง จึงจะสามารถคำนวณตู้ได้ครับ

6
ง่ะ สวัสดีครับอาจารย์ปู่ คริคริ

เคลียร์ด่วนเลย ใครอาจารย์ปู่ 555

ท่านใดมีคำถามเกี่ยวกับระบบไฟ ไดชาร์จ ปรึกษาได้ที่กระทู้นี้เลยครับ

7
แบบที่7,10 ครับ
สามารถควบคุมระดับความดังเสียงของลำโพง
แต่ละชุดได้ดีกว่า

8
ต่อสัญญาณจากลำโพงของฟร้อนเข้าช่อง Hi Input ของเพาเวอร์แอมป์ ต้องใช้สายไฟแบบไหนครับ ???

ใช้สายของแจ็ค RCA ได้หรือป่าวครับ เห็นเส้นทองแดงมันเล็กมากๆ ไม่รู้ว่าจะใช้ได้หรือป่าว

หรือต้องใช้สายที่พอๆกับสายลำโพงครับ

มือใหม่ครับ ช่วยตอบทีครับ



เส้นใหญ่ก็ได้เปรียบกว่าครับ การไหลของกระแสทำได้ดีกว่า แต่ใหญ่มากก็เป็นปัญหาในการทำงานอีกเหมือนกัน คงต้องดูให้เหมาะสมกันครับ

10
สอบถามหน่อยพี่ๆครับระหว่างลำโพง 12" 3 คู่ ดอกยิงลงพื้น กับ 15" 1 คู่ยิงลงพื้น อันไหนจะดังกว่ากันครับแล้วเสียงออกมาต่างกันมากไหมครับ ขอบคุณครับ

15" จำนวน 1 คู่ เท่ากับ 12" 4 ตัว ครับ

11
ท่านนันก็ว่าไปหลังคาสั่น
สังกะสียังไม่สะเทือนเลย
เอาไว้เปิดกับเพื่อนๆพอได้มีเรื่องคุยกันครับ


ส่วนของผมมักจะใจสั่น เมื่ออยู่ต่อหน้าน้องๆครับ

13
สวยงามมากครับ ท่านใดต้องการงานสวยๆแบบนี้ จัดได้เลยครับ

14
vce ครับ แรงแบบกระแทรกครับ

อีกหนึ่งแบรนด์ของคนไทยที่น่าสนับสนุนครับ

15

หน้าที่และปุ่มต่างๆของเพาเวอร์แอมป์

    อีกครั้งสำหรับหน้าที่และปุ่มต่างของเพาเวอร์แอมป์ เพราะมีคำถามเข้ามามากมาย สำหรับปุ่มต่างๆที่หลายท่านยังสงสัย

    หน้าที่ของปุ่มต่างๆบนแอมป์ Class AB


    Gain,sensitivity
    เป็นปุ่มสำหรับปรับระดับความไวขาเข้าให้กับเพาเวอร์แอมป์ เพื่อให้มีระดับความดังตามต้องการ แต่การปรับปุ่มความไวขาเข้านี้ หากมากเกินไปจะทำให้ความสมดุลย์ระหว่างอิมพีแดนซ์ขาออกของปรีแอมป์หรือวิทยุกับอิมพีแดนซ์ขาเข้าของเพาเวอร์แอมป์ไม่เหมาะสมกัน ทำให้เกิดปัญหา เสียงซ่า เสียงรบกวนและขาดน้ำหนักเสียงและปลายเสียงที่ดีครับ

    High pass
    ปุ่มที่กำหนดหน้าที่กำหนดให้ความถี่สูงกว่าจุดตัดหรือความถี่ที่กำหนดผ่านออกไปสู่ลำโพงให้ทำงานต่อไป เช่นกำหนดความถี่ไว้ที่ 90Hz นั่นหมายถึงความถี่ที่สูง
    กว่า 90Hz จะผ่านไปสู่ลำโพง ส่วนความถี่ที่ต่ำกว่า 90Hz ก็จะถูกกรองทิ้งไป

    Low pass
    ปุ่มที่กำหนดให้ความถี่ต่ำกว่าจุดที่กำหนดผ่าน เช่น กำหนดความถี่ไว้ที่ 90Hz นั่นหมายถึงความถี่ที่ต่ำกว่า 90Hz จะถูกส่งไปให้ลำโพงทำงาน ส่วนความถี่ที่สูงกว่า 90Hz ก็จะถูกกรองทิ้ง

    Full , Flat
    เป็นปุ่มที่เลือกให้ความถี่ทุกความถี่ ผ่านออกไปสู่ลำโพงทั้งหมด โดยไม่มีการกรองความถี่ทิ้งไปแต่อย่างใด

    หน้าที่และปุ่มต่างๆของแอมป์ Class D

    Bass Boost
    เป็นปุ่มที่ทำหน้าที่เพิ่ม-ลดระดับความดังของความถี่ที่กำหนด เช่น แอมป์จะกำหนดความถี่ในการเพิ่ม-ลดมาไว้ให้ตายตัว เช่น 45Hz หรือสามารถเลือกความถี่ที่ต้องการ Boost ได้
    หน้าที่ของปุ่มต่างๆบนแอมป์คลาส D

    gain ปรับความไวขาเข้าของเพาเวอร์แอมป์ ให้ทำงานสอดคล้องหรือเหมาะสมกับระดับความแรงของสัญญาณ

    lpf เป็นปุ่มสำหรับเลือกความถี่ให้วงจรกรองความถี่แบบต่ำผ่าน โดยความถี่ที่เลือกจะกำหนด ให้ปล่อยความ
    ถี่เสียงที่ต่ำกว่ากำหนดให้ซับทำงานต่อไป หรือความถี่ที่สูงกว่าที่กำหนดจะถูกกรองทิ้งไป

    Subsonic ทำหน้าเสมือนวงจรกรองความถี่แบบ Hpf เป็นการกำหนดให้ความถี่ที่สูงกว่าที่กำหนด ผ่านให้ซับวูฟเฟอร์
    ทำงานหรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ความถี่ที่ต่ำกว่าที่กำหนดจะถูกวงจรนี้กรองทิ้งไป
    ข้อสังเกต Lpf และ Sub Sonic จะมีหน้าที่และการทำงานที่ตรงข้ามกัน

    Bass Boost Fre. เป็นปุ่มสำหรับเลือกความถี่ที่ต้องการ ปรับเพิ่ม(Boost) เพื่อเป็นการชดเชยสภาพทางอคูสติกหรือแก้ไขปัญหา
    ทางเฟสที่อาจล้ำเกินไป

    Bass Boost เป็นปุ่มที่ควบคุมระดับความดังของความถี่ที่ต้องการเพิ่ม-ลด ทำงานสัมพันธ์กับ Bass Boost Fre.


ข้อมูลที่ดีมากเลยครับ แต่ผมลองจูน เท่าไหร่ก้ยัไม่ได้ สักที อาจเป็นที่ตู้ด้วยป่าวครับ

ที่ว่ายังไม่ได้ เสียงเป็นอย่างไรครับ

16
ผมว่าคุ้นกันหมดล่ะครับ ฮ่าๆๆๆ มีแต่ผมยังไม่คุ้นกะใครเลย เด็กใหม่ครับ  8)

หมั่นไส้จริงเชียว

17
ชยพัทธ์ HINO สำโรงคับผม      คนสุรินทร์

สวัสดีทุกท่านอีกครั้งนะครับ เว็ปนี้มีผู้รู้อยู่อย่างมากมาย ผมขอเป็นส่วนหนึ่งที่จะทำประโยชน์ให้กับสังคมแห่งนี้นะครับ

18
ชมกันไปเรื่อยๆคับ





คันนี้น่าเอาไปโชว์มากครับ

19
สวัสดีครับ น้าตึ๋ง ผมมีข้อสงสัยครับ

power class D เค้าต่อกันยังไง ทุกวันนี้ยัง งง อยู่เลยครับ

คือ ผมมี ลำโพง 2 ดอก ว้อยคู่ (4โอม) ผมต่อแล้ว เหลือดอกละ 2 โอม

แล้วผมจะต่อเข้ากับ power amp class D อย่างไรครับ

แล้วแบบนี้จะเหลือ กี่โอม ครับ

การต่อลำโพงเหลือดอกละ 2 โอห์มคือการขนาน  จากนั้นให้เอาลำโพงตัวแรกมาขนานกับตัวที่สอง จะได้ความต้านทานที่ 1 โอห์มครับ
ส่วนการต่อมาเข้าที่เพาเวอร์แอมป์ ทำได้สองกรณี
กรณีแรก........ เดินสายจากเพาเวอร์แอมป์ชุดเดียว ไปหาลำ่โพง แล้วขนานลำโพงจากตัวละ 2 โอห์มจะเหลือ 1 โอห์ม
กรณีที่สอง...... เดินสายจากเพาเวอร์แอมป์สองชุด ไปหาลำโพงแต่ละตัว ก็จะได้ความต้านทานที่ 1 โอห์ม เช่นกัน

แต่การต่อในกรณีที่สอง ทำให้การไหลของกระแสจากเพาเวอร์แอมป์สู่ลำโพง ทำได้ดีกว่า เนื่องจากมีพื้นที่ของสายมากกว่า กรณีแรกครับ

20

หน้าที่และปุ่มต่างๆของเพาเวอร์แอมป์

    อีกครั้งสำหรับหน้าที่และปุ่มต่างของเพาเวอร์แอมป์ เพราะมีคำถามเข้ามามากมาย สำหรับปุ่มต่างๆที่หลายท่านยังสงสัย

    หน้าที่ของปุ่มต่างๆบนแอมป์ Class AB


    Gain,sensitivity
    เป็นปุ่มสำหรับปรับระดับความไวขาเข้าให้กับเพาเวอร์แอมป์ เพื่อให้มีระดับความดังตามต้องการ แต่การปรับปุ่มความไวขาเข้านี้ หากมากเกินไปจะทำให้ความสมดุลย์ระหว่างอิมพีแดนซ์ขาออกของปรีแอมป์หรือวิทยุกับอิมพีแดนซ์ขาเข้าของเพาเวอร์แอมป์ไม่เหมาะสมกัน ทำให้เกิดปัญหา เสียงซ่า เสียงรบกวนและขาดน้ำหนักเสียงและปลายเสียงที่ดีครับ

    High pass
    ปุ่มที่กำหนดหน้าที่กำหนดให้ความถี่สูงกว่าจุดตัดหรือความถี่ที่กำหนดผ่านออกไปสู่ลำโพงให้ทำงานต่อไป เช่นกำหนดความถี่ไว้ที่ 90Hz นั่นหมายถึงความถี่ที่สูง
    กว่า 90Hz จะผ่านไปสู่ลำโพง ส่วนความถี่ที่ต่ำกว่า 90Hz ก็จะถูกกรองทิ้งไป

    Low pass
    ปุ่มที่กำหนดให้ความถี่ต่ำกว่าจุดที่กำหนดผ่าน เช่น กำหนดความถี่ไว้ที่ 90Hz นั่นหมายถึงความถี่ที่ต่ำกว่า 90Hz จะถูกส่งไปให้ลำโพงทำงาน ส่วนความถี่ที่สูงกว่า 90Hz ก็จะถูกกรองทิ้ง

    Full , Flat
    เป็นปุ่มที่เลือกให้ความถี่ทุกความถี่ ผ่านออกไปสู่ลำโพงทั้งหมด โดยไม่มีการกรองความถี่ทิ้งไปแต่อย่างใด

    หน้าที่และปุ่มต่างๆของแอมป์ Class D

    Bass Boost
    เป็นปุ่มที่ทำหน้าที่เพิ่ม-ลดระดับความดังของความถี่ที่กำหนด เช่น แอมป์จะกำหนดความถี่ในการเพิ่ม-ลดมาไว้ให้ตายตัว เช่น 45Hz หรือสามารถเลือกความถี่ที่ต้องการ Boost ได้
    หน้าที่ของปุ่มต่างๆบนแอมป์คลาส D

    gain ปรับความไวขาเข้าของเพาเวอร์แอมป์ ให้ทำงานสอดคล้องหรือเหมาะสมกับระดับความแรงของสัญญาณ

    lpf เป็นปุ่มสำหรับเลือกความถี่ให้วงจรกรองความถี่แบบต่ำผ่าน โดยความถี่ที่เลือกจะกำหนด ให้ปล่อยความ
    ถี่เสียงที่ต่ำกว่ากำหนดให้ซับทำงานต่อไป หรือความถี่ที่สูงกว่าที่กำหนดจะถูกกรองทิ้งไป

    Subsonic ทำหน้าเสมือนวงจรกรองความถี่แบบ Hpf เป็นการกำหนดให้ความถี่ที่สูงกว่าที่กำหนด ผ่านให้ซับวูฟเฟอร์
    ทำงานหรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ความถี่ที่ต่ำกว่าที่กำหนดจะถูกวงจรนี้กรองทิ้งไป
    ข้อสังเกต Lpf และ Sub Sonic จะมีหน้าที่และการทำงานที่ตรงข้ามกัน

    Bass Boost Fre. เป็นปุ่มสำหรับเลือกความถี่ที่ต้องการ ปรับเพิ่ม(Boost) เพื่อเป็นการชดเชยสภาพทางอคูสติกหรือแก้ไขปัญหา
    ทางเฟสที่อาจล้ำเกินไป

    Bass Boost เป็นปุ่มที่ควบคุมระดับความดังของความถี่ที่ต้องการเพิ่ม-ลด ทำงานสัมพันธ์กับ Bass Boost Fre.

21
เครื่องเสียงรถยนต์มือสอง / กรองไฟ KWT Super DC Filter
« เมื่อ: กันยายน 17, 2012, 10:54:22 AM »
ของดี แนะนำกันไปครับ

22
ผมเป็นสมาชิค caraudio club ถาวร cac-266 ต้องการขาย(จำเป็นต้องใช้เงิน)
ซับ AQ 128RS 4000 ส่งธรรมดา
ตู้ใต้เบาะนาวารา 1500 รวมส่ง
มีแผงประตูครึ่งบานVIGO ดำแดง 1คู่ 700 รวมส่งธรรมดา
0853941266
0818685058
ธนาคาร กรุงเทพ 6530375457
สาขา ระยอง
นายทรงยุทธ พึ่งแสงสุวรรณ











ขายได้เร็วๆนะครับ

23
ผมสุนทรคับพี่ตึ๋ง

ครับ.... ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ

24
AQอีกเสียง นุ่ม ลอย แรง  ดีจัง

เซียนมาแนะนำแล้วครับ

25
ตามมาติดๆกับ ดีแม็ค 15 นิ้ว เจาะกันเข้าไปจากอีซูซุตรีเพชร ลาดพร้าว



ร้านนี้ได้ข่าวว่า..... เจ้าของร้านหล่อมาก

26
ถาม ตอบ เครื่องเสียงรถยนต์ / 12" pro plus Hunter 2000 wat
« เมื่อ: กันยายน 17, 2012, 09:17:23 AM »
แอมป์ตัวนี้จะออกราวๆ 1500-1600 W  ก็ดันออกครับ.....เเต่ถ้าให้สุดๆๆมันๆก็ xp-901.1a 2000w เต็มๆกันเลยครับ
ส่วนตู้ผมขอเเนะนำเป็น 4ออเดอร์ครับ.....

ุู้ตู้สำเร็จ ที่ดีก็มี ที่ด้อยก็เยอะ ต้องเลือกตู้ให้ได้ปริมาตรตามที่ลำโพงต้องการครับและให้เลือกที่ใช้ไม้ทำตู้หนาๆ

27
ถาม ตอบ เครื่องเสียงรถยนต์ / ตู้ซับเบส
« เมื่อ: กันยายน 17, 2012, 09:15:26 AM »
ผมอยากรู้เรื่องตู้ซับเบสอะคับ..ในแต่ละร้านมันแตกต่างกันมากมั๊ยคับในด้านของเสียงอะคับ..  ???

ต่างกันแน่นอน ขึ้นอยู่กับปริมาตรของตู้เป็นหลักและสุดท้ายที่การจูนเสียง

ก่อนจะเอาลำโพงไปให้ร้านดู ต้องตรวจสอบร้านด้วยว่า สามารถวัดค่าพารามิเตอร์ให้เราได้หรือไม่
ถ้าไม่ได้ก็ต้องหาเอง,ร้านคำนวณตู้ให้เราได้หรือไม่ (ทำได้จริงหรือเปล่า ) ถ้าทำได้ต้องบอกได้
ว่าความถี่ตู้เท่าไร ส่วนใหญ่จะใช้โปรแกรมคำนวณ ขอดูโปรแกรมที่เขาคำนวณให้เรา

ถ้าหาค่าพารามิเตอร์ให้เราไม่ได้ ก็ต้องหาให้กับเขาและกำหนดปริมาตรให้เขาทำตามที่เรากำหนดครับ
ไม่งั้นก็จะเจอกับปริมาตรที่ไม่เหมาะสม ทำให้ลำโพงทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพครับ

28
อยากรู้ว่า ระหว่าง ข้างแค็บ กับ ตู้พื้น

แบบไหน ลอยไกล ดังแน่น กว่ากัน

ถ้ามองที่ตำแหน่งติดตั้งลำโพง ลำโพงที่หันหน้าไปทางหน้ารถจะได้เปรียบกว่าครับ
ส่วนลอยไกล ขึ้นอยู่กับปริมาตรตู้ ครับ

29


ก่อนที่จะเริ่มทำการจูนเสียง สิ่งที่สำคัญที่สุด ต้องแน่ใจซะก่อนว่า ลำโพงแต่ละตัวของเรามี "เฟส"ที่ถูกต้องทั้งหมดนะครับ ไม่อย่างนั้นจูนเท่าไหร่เสียงก็ไม่ดีและไม่ดัง

ผมขออนุญาตเริ่มก่อนแล้วกัน ในการปรับจูนเสียงคงต้องเริ่มกันที่การทำ Level Matching กันก่อน เพื่อทำการควบคุมระดับสัญญาณไม่ให้เกิดการ Clip หรือ Peak สามารถทำได้ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ครับ

การทำ Level Matching

ต้องทำความเข้าใจกับท่านที่ยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของการทำ Level Matching กันก่อนนะครับ ว่าการกระทำดังกล่าว เป็นการปรับเพื่อป้องกันไม่ให้อุปกรณ์ในระบบเกิดความเพี้ยนหรือการ Clip ขึ้นมาเท่านั้น ไม่ใช่เป็นการปรับจูนเสียงเพื่อให้ได้เสียงที่ดี และในการแนะนำของผมเป็นการทำที่อาจจะแตกต่างไปจากที่เคยทราบกันอยู่แล้วบ้างนะครับ เพราะเกิดจากประสบการณ์ในการทำงานผสมกับทฤษฏีทางไฟฟ้า

ทำการขั้นตอนดังนี้
- เปิดวอร์มอุปกรณ์ทิ้งไว้สักประมาณ 15 นาที เพื่อเป็นการเตรียมพร้อม
- ทำการเช็ค เฟส ของลำโพงทุกตัว
- ปรับอุปกรณ์ทั้งหมดให้อยู่ตำแหน่ง Flat
- ปรับตั้งจุดตัดความถี่ให้อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมกับการทำงานของลำโพง เพื่อป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น โดยให้ทำการกำหนดความถี่ดังนี้ ซับวูฟเฟอร์ กำหนดจุดตัดความถี่ไว้ที่ 90hz มิดเรจน์/วูฟเฟอร์ กำหนดไว้ที่ 90-4khz และสุดท้ายทวีตเตอร์ กำหนดไว้ที่ 4khz ตัวอย่างความถี่ที่แนะใช้ได้กับลำโพงทุกยี่ห้อครับ อยู่ในระยะที่ปลอดภัย แต่ถ้าลำโพงยี่ห้อใดไม่สามารถทำได้ ขายทิ้งไปเลยครับ ถือว่ามีคุณภาพที่ต่ำมาก และถ้าเป็นสไตล์ SQ การปรับตั้งความถี่จะโหดกว่านี้มากครับ เช่น ซับวูฟเฟอร์ กำหนดความถี่ที่ 50hz มิดเรนจ์ กำหนดความถี่ที่ 50-2.5khz และทวีตเตอร์ กำหนดความถี่ที่ 2.5khz ขึ้น ส่วนท่านใดที่เห็นว่าการกำหนดความถี่ที่แนะนำไม่เหมาะสมก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ตามความชอบของแต่ละท่าน
- ทำการปิด gain ของอุปกรณ์แต่ละตัวให้หมด
- เปิดแหล่งกำเนิดสัญญาณ วิทยุ ไว้ทีประมาณ 75% ใส่แผ่น CD ที่เป็นเพลงที่มีไดนามิคเรนจ์สูง
เพื่อที่จะทำการกำหนดความแรงสัญญาณ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการ Clip ได้ชัดเจนกว่า
- ค่อยๆทำการเปิด gain ของอุปกรณ์ตัวถัดไปเช่น ปรีแอมป์,ครอสโอเวอร์,Line Driver,แอมป์ ถ้า
อุปกรณ์ตัวใดไม่มีก็ให้ข้ามไปที่อุปกรณ์ตัวอื่นๆต่อไป ในขณะที่ทำการปรับ gain ให้สังเกตเสียงที่ได้ยินว่า เสียงที่ได้ยินมีการแตกพร่าหรือมีการ Clip เกิดขึ้นหรือไม่ ถ้าได้ยินเสียงแตกหรือClip เกิดขึ้นให้การลดระดับของสัญญาณหรือgain ลง
- ในการปรับgain อุปกรณ์ตัวสุดท้ายอาจ ไม่ต้องทำการเปิด gain เลยก็ได้หากสัญญาณมีความแรงพอหรือเพาเวอร์แอมป์มีความแรงพอ ที่จะทำให้ลำโพง Clip และจะเป็นสิ่งที่ดีมากต่อการตอบสนองความถี่ที่สมบูรณ์หากไม่ได้ทำการเปิด gain หรือเปิดก็แต่น้อย เพราะมีผลต่อความ Matching Impedence ยกเว้นในกรณีที่ความแรงสัญญาณไม่พอ จึงค่อยเปิด gain เพาเวอร์แอมป์
- แนะนำให้เริ่มทำการปรับที่ ลำโพงเสียงกลางก่อนเป็นอันดับแรก เนื่องจากเสียงกลางหรือเพาเวอร์แอมป์ที่ขับเสียงกลางเป็นช่วงที่มีความถี่ที่กว้างที่สุด จากนั้นก็เป็นลำโพงเสียงแหลมและซับวูฟเฟอร์

30
ขับ 10" โครงเหล็กหล่อ แม่เหล็ก 2ก้อน ลำโพงโมเรียบร้อยแล้วคับ......^^


โมฯแล้ว แอมป์ควรมีกำลังขับอยู่ที่ 1500 วัตต์ครับ

31
ตั้งงบประมาณก่อนครับ แล้วซื้ออุปกรณ์ให้เหมาะกับงบประมาณครับ

เห็นด้วยกับคุณ nok magic ครับ

32
10 นิ้ว Drider โครงปั๊ม แม่เหล็ก 2 ชั้น ใช้แอมป์กี่วัตต์ดีครับ ยี่ห้อไรดี งบไม่เยอะครับ



ตอนนี้สนใจ เวิรค์เทค 4230.15D อยู่อะครับดีไหมครับ แล้วต้องใช้สายไฟยังไงดีครับ

ช่วยน้องทีนะครับ

ใช้ AQ-EX1500.1D ขนาด 1000 วัตต์หรือแอมป์ตัวที่คุณถามก็ได้ครับ ส่วนสายไฟใช้ขนาดใหญ่ที่สุด เท่าที่จะทำได้จะเป็นการดีมาก
สายกราวด์ให้สั้นที่สุดด้วยนะครับ

33
วอยซ์ละ2 อนุกรมกันในตัว ได้ที่ 4 โอห์ม แล้วมาขนานระหว่างตัวต่อต่อ ได้ที่ 2 โอห์มครับท่านลัย

34
ฝากเนื้อ ฝากตัวด้วยครับ

35
ที่เหลือก็เป็นการเลือกสายสัญญาณและการติดตั้งแล้วครับ
สิ่งที่น่าเป็นห่วงก็คือ เรื่องของความไวของซับ ที่ไม่ทันกับ
ลำโพงเสียงกลาง-แหลม อย่างแน่นอน

ต้องอาศัยการจูนเสียงที่ดีๆและแม่นยำครับ

36
ความเห็นเหมือนniyom2010ครับ
สายกราวด์ควรสั้นที่สุดและต้องระวังไม่ให้ตัวถังของแอมป์สัมผัสกับตัวถังของรถนะครับ

37
ทำ level matching ใหม่ครับ
ลดเกนอินพุทของปรีแอมป์,ที่แอมปืลงครับ

หน้า: 1