คู่มือผู้ใช้ SMF


6 วิธีแก้อาการเมารถง่าย แบบได้ผลจริง เวียนหัว คลื่นไส้ขณะเดินทางป้องกันอย่างไรดี
ผมเชื่อว่าถ้าถามคำถามประเภท “ใครเคยเมารถบ้างยกมือขึ้น” ก็คงมีไม่น้อยที่ยกมือกันพรึบพรับ เพราะอาการเมารถนั้นมักจะเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว ที่ไหนและเมื่อไหร่ก็ได้ และเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วมักจะสร้างความวิงเวียน ปวดหัว และกระอักกระอ่วน คลื่นไส้ให้กับผู้ที่มีอาการอยู่เป็นระลอก และที่ร้ายที่สุดก็จะทำให้ผู้มีอาการชนิดนี้อาเจียนออกมา ซึ่งทรมานไม่ใช่เล่นแถมยังเลอะเทอะอีกต่างหาก ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากจะนำเสนอวิธีการแก้อาการเมารถมาฝากกันครับ
1. พยายามนั่งรถบริเวณส่วนหน้าของรถ ประสาทส่วนต่างๆ ของเราจะได้รับรู้ถึงจังหวะการเคลื่อนตัว รวมถึงอาการโคลงเคลงของรถได้ จากการทดลองพบว่าวิธีนี้ช่วยให้ผู้ชอบเมารถ มีอาการลดลงได้อย่างมาก ทั้งนี้ก็เพราะประสาทของเรารับรู้ความเคลื่อนไหวของรถ และปรับตัวตามนั่นเอง
2. ห้ามอ่านหนังสือ หรือเล่นโทรศัพท์ในขณะที่กำลังนั่งรถ ทั้งนี้ก็เพราะจะทำให้ประสาท หรือสมาธิของเราจดจ่ออยู่ที่ตรงข้างหน้าเท่านั้น และอาการที่ตามมาก็คือร่างกายปรับสมดุลตามการเคลื่อนไหวของรถไม่ได้ อาการเมาจึงมักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีพฤติกรรมอ่านหนังสือ/เล่นโทรศัพท์บนรถ ดังนั้นในขณะนั่งรถ เราจึงไม่ควรจ้องหรือเพ่งอะไรอยู่ที่จุดเดียว และพยายามมองวิวทิวทัศน์ภายนอกบ่อยๆก็จะช่วยลดอาการลงได้
3. จิบหรือดื่มน้ำอัดลมในปริมาณพอเหมาะ วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกมวนท้องมากๆ เพราะน้ำอัดลมจะไปช่วยขับดันกรดในกระเพาะออกมา สามารถลดอาการมวนท้องลงได้พอสมควร และนอกจากนี้ ผู้ที่มีอาการมวนท้องควรสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ในระหว่างที่เกิดอาการ ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้ความรู้สึกวิงเวียนนั้นลดลงได้ครับ
4. ยาหม่อง ยาดม ยาอม ยาหอม ช่วยท่านได้ เมื่อเริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ลองหยิบขึ้นมาสูดดมจะช่วยบรรเทาอาการได้ดีทีเดียว
5. กินยาแก้เมารถ เช่น ไดเมนไฮดริเนต (Dimenhydrinate) ปัจจุบันยาประเภทนี้มักมีขายตามร้านขายยาหรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่เริ่มมีอาการเมารถเกิดขึ้น ยาตัวนี้จะช่วยปรับความสมดุลของระบบประสาท ช่วยให้ร่างกายปรับตัวตามการเคลื่อนไหว หรือโคลงเคลงของรถ และขณะที่ยาตัวนี้กำลังออกฤทธิ์ จะทำให้ผู้ที่รับประทานเกิดอาการง่วงซึม แนะนำว่าให้หลับไปเลยก็ได้ครับ เพราะการนอนหลับระหว่างการเดินทางก็เป็นการแก้อาการเมารถชนิดหนึ่งเช่นกัน
6. รับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่นมะม่วง มะดัน หรือมะขาม ซึ่งรสเปรี้ยวจากผลไม้จะชนิดนี้จะสามารถช่วยลดอาการเมาหรือวิงเวียนลงได้พอสมควร แต่แนะนำว่าอย่ากินเยอะ เพราะจะเกิดกรดในกระเพาะ และทำให้ท้องเสียได้ ทีนี้แย่ยิ่งกว่าเมารถอีกนะครับ
นอกจากนี้ สำหรับคนที่ลองทำทุกวิธีแล้วยังไม่ได้ผล แนะนำให้ลงจากรถ แล้วหาที่ตั้งสติปรับสมดุลของร่างกายสักครู่แล้วค่อยออกเดินทางต่อ การที่ร่างกายได้พักและปรับตัวจะทำให้อาการเมารถลดลงได้เช่นกันครับ
2

ขายสินค้าเครื่องเสียงรถยน ทั้งมือ1 และมือ2 ทั้งแบบจัดชุดและแยกขายสินค้ามีคุณภาพ

« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2016-12-04 07:24:38 »

สวัสดีคับ ขายสินค้าเครื่องเสียงรถยน ทั้งมือ1 และมือ2 ทั้งแบบจัดชุดและแยกขายสินค้ามีคุณภาพราคาถูก
สนใจ ูสินค้า อื่นๆได้ที่ https://www.facebook.com/Hengzaza
สามารถปรึกษา หรือ คำถามต่างๆได้คับ ยินดีให้บริการ
หรือสนใจ ติดต่อ 082-8243223 เฮ้ง
https://www.facebook.com/Hengzaza
https://www.facebook.com/Hengzazahttp://upic.me/i/su/6xp23.jpg
http://upic.me/i/ch/gecq0.jpg
http://upic.me/i/jv/818j2.jpg
http://upic.me/i/s3/adtc3.jpg
http://upic.me/i/iy/f91k4.jpg
http://upic.me/i/go/axhh5.jpg
http://upic.me/i/jw/ajnt6.jpg
http://upic.me/i/fu/mp5s7.jpg
http://upic.me/i/jz/9lx88.jpg
http://upic.me/i/zp/6zng9.jpg
http://upic.me/i/48/15u10.jpg
http://upic.me/i/mx/ykl11.jpg
http://upic.me/i/hy/dml12.jpg
http://upic.me/i/87/hm614.jpg
http://upic.me/i/bt/ezh15.jpg
http://upic.me/i/qu/jjj13.jpg
http://upic.me/i/6k/n3f18.jpg
http://upic.me/i/un/m1m29.jpg
http://upic.me/i/i8/8eo27.jpg
3

กล่องเพิ่มกำลังไฟ P Electronic Oil เจ้าเดียวที่มห้ความและกำลังไฟมากถึง 30 ฟารัด

« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2016-07-27 16:40:07 »

F.A.Q. คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ กล่องกรองไฟ P Electronic Oil ทุกรุ่น

[img width=1000 height=563]https://scontent.fbkk12-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/13490772_1785160331718588_4475167326122684141_o.jpg[/img]

Q : ติดตั้งยังไง ติดตั้งยากไหม ต้องตัดต่อสายไฟไหม ต้องจูนไหม
A : ติดตั้งไม่ยาก สามารถติดตั้งเองได้ ต่อเข้ากับแบตเตอรี่ สายสีแดงต่อเข้าขั้วบวก สายสีดำต่อเข้าขั้วลบของแบตเตอรี่ ไม่มีการตัดต่อสายไฟ ไม่มีการจูนใดๆ ทั้งสิ้น

Q : กล่องช่วยในเรื่องอะไร
A : กล่องช่วยในเรื่องของระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ การกรองความถี่ที่ปะปนอยู่ในกระแสไฟฟ้า ที่เกิดจากการทำงานของไดชาร์ต ช่วยให้กระแสไฟที่จ่ายไปยังระบบอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ให้มีความเร็วและเรียบยิ่งขึ้น ลดความร้อนที่เกิดจากกระแสกระชากและไฟไม่เรียบ ให้อุปกรณ์ร้อนน้อยลง ยืดเวลาการเสื่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Q : มีกล่องไฟยี่ห่ออื่น, กล่องดันราง, กล่องควบคุมแก๊ส(LPG) / ก๊าซ (CNG/NGV) อยู่แล้ว สามารถติดตั้งกล่องนีี้ได้หรือไม่
A : สามารถติดตั้งร่วมกันกับกล่องได้ทุกชนิด โดยไม่มีผลเสียใดๆ ทั้งสิ้น ช่วยเสริมให้กล่องพวกนั้นทำงานได้ดีขึ้น เพิ่มความสามารถให้กับกล่องอื่นๆ เช่นกล่องดันรางช่วยให้เพิ่มแรงม้า รอบมาไว ประหยัดน้ำมัน ช่วยยืดอายุกล่องอื่นๆ ได้เช่นเดียวกับยืดอายุแบตเตอรี่

Q : กล่องมีอายุการใช้งานได้กี่ปี
A : อายุการใช้งาน 5 ปีขึ้น เนื่องจากตัวเก็บประจุเป็นแบบ คาร์บอน สามารถอยู่ในอุณหภูมิสูงสุดที่ 105 องศาเซลเซียส โดยที่ไม่แห้งและเสือมสภาพ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่รถที่ติดตั้ง รถบางรุ่นแบตเตอรี่จะอยู่ในห้องโดยสารหรือที่เก็บของท้ายรถ ในส่วนนี้จะให้กล่องมีอายุที่ยาวนานขึ้นไปอีก

Q : สามารถนำกล่องที่ใช้งานแล้วไปติดตั้ง ยังรถอื่นๆ ได้อีกหรือไม่
A : สามารถถอดกล่องออกและติดตั้งใหม่ได้ไม่จำกัด โดยไม่มีผลต่อการทำงานของกล่องและไม่ทำให้กล่องเสียหาย

Q : ไฟ LED ที่ตัวกล่องหลังจากติดไปแล้ว ติดตลอดหรือไม่
A : ไฟแสดงสถานะ LED นั้น จะติดตลอดเวลา เพื่อแสดงว่ากล่องกำลังทำงาน โดยไม่ต้องกังกลว่า แบตเตอรี่ในรถยนต์ของคุณจะหมด เนื่องจากกล่องจะมีไฟเลี้ยงตัวเอง สังเกตได้เวลาถอดออกไฟจะยังติดอยู่เป็นชั่วโมงไฟ LED กินไฟน้อยมากๆ น้อยกว่าหลอดไฟ เวลาเปิดประตูรถ หรือ ไฟส่องสว่างในรถยนต์ ของคุณใช้เสียอีก จึงไม่ต้องกังวล

Q : สามารถติดตั้งหลายๆ กล่องพร้อมๆ กันได้หรือไม่
A : คุณสามารถติดตั้งหลายๆ กล่องพร้อมกันได้ ยิ่งติดมาก ค่ายิ่งเยอะ ยิ่งดี จะช่วยให้รองรับการโหลดของกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้น นั่นหมายถึงไฟจะนิ่งและคงที่มาก

Q : ค่า ฟารัด เยอะ ช่วยในเรื่องอะไร
A : ลองนึงถึงเครื่องปั้มน้ำ เมื่อใช้เครื่องปั้มน้ำกำลังน้อย ก็จะปัมได้อยู่ประมาณชั้นสองชั้นสาม พอชั้นสีน้ำเบา เมื่อใช้เครื่องปั้มน้ำที่มีกำลังมาก ก็จะปั้มได้ถึงชั้นเก้าชั้นสิบ โดยที่กำลังน้ำไม่ดรอปลงไปเลย ก็เหมือนกับกำลังไฟฟ้าที่จ่ายไปยังระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

Q : สามารถเอากล่องที่กำลังเยอะๆ ไปใส่ในรถเล็กๆ ได้ไหม
A : สารมารถใส่ได้ ยิ่งกำลังเยอะ ไฟก็จะไม่มีดรอป ลดการกระชากของไฟฟ้าได้มาก และรองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่ใช้ไฟฟ้าได้ดีอีกด้วย

Q : ติดกล่องไปแล้วจะหมดประกันศูนย์หรือไม่
A : ไม่หมดประกันศูนย์ เพราะไม่มีการตัดต่อ ดัดแปลง หรือการแก้ไขระบบใดๆ ทั้งสิ้น กล่องเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ จึงทำให้ไม่หมดประกัน

Q : ทำไมกล่องแต่ละรุ่นถึงมีเงื่อนไขในการติดตั้งไม่เหมือนกัน
A : กล่องแต่รุ่นได้ที่การทดสอบก่อนออกจำหน่ายจริง และทดลองกับรถยนต์หลายประเภท และการใช้กำลังไฟของเครื่องยนต์แต่ละขนาด แต่ละจำนวนกระบอกสูบ ใช้กำลังไฟไม่เท่ากัน และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ จึงทำให้กล่องแต่รุ่นมีความแต่ต่างและเหมาะสมกับการใช้งานจริง

Q : ‪กล่องกรองไฟ‬ ‪‎P Electronic‬ จึงมีราคาที่สูง
A : เนื่องด้วยวัสดุที่นำมาประกอบแต่ละชิ้น ต้องนำเข้าจากหลายๆ ประเทศ จึงทำให้มีต้นทุนที่สูงกว่า และคุณภาพที่ดีกว่า

Q : กล่องสามารถติดตั้งรถรุ่นไหนได้บ้าง ติดตั้งกับเชื้อเพลิงแบบไหนได้บ้าง
A : สามารถติดตั้งได้กับรถทุกประเภท รถเก่ารถใหม่ป้ายแดงก็ติดได้ ติดตั้งกับเชื้อเพลิงทุกชนิด ขอให้รถมีแบตเตอรี่กับไดชาร์ตก็พอ

Q : ดับเครื่องแล้ว ไฟที่กล่องยังทำงาน จะส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วหรือไม่
A : กล่องจะมีวงจรและตัวเก็บประจุอีกชุดไว้สำหรับ เลี้ยงไฟแสดงสถานะ จึงไม่มีการดึงไฟจากแบตเตอรี่ใดๆ ทั้งสิ้น กล่องจะทำงานก็ต่อเมื่อทำการสตาร์ทและไดชาร์ตทำงานแล้วเท่านั้น

Q : กล่องสามารถโดนน้ำได้หรือไม่ เผื่อเวลาทำความสะอาดห้องเครื่อง
A : กล่องสามารถโดนน้ำได้ ภายในกล่องได้มีการเทเรซิ่นเพื่อป้องกันน้ำโดนแผงวงจรและอุปกรณ์ เพราะเรารู้ว่ากล่องส่วนมากต้องติดตั้งอยู่ภายในห้องเครื่อง ต้องมีการโดนน้ำโดนฝุ่นเป็นเรื่องปกติ

Q : กล่องสามารถทนความร้อนได้ขนาดไหน
A : กล่องสามารถอยู่ในอุณหภูมิสูงสุดที่ 105 องศาเซลเซียส และกล่องอลูมิเนียมสามารถระบายความร้อนได้เร็ว โดนปกติทั่วไปอุณหภูมิภายในห้องเครื่องจะไม่เกิน 95 องศาเซลเซียส จึงไม่มีปัญหาที่จะติดตั้งกล่องไว้ในห้องเครื่อง หรือสำหรับมอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ ก็สามารถติดตั้งไว้ในส่วนที่โดนน้ำโดนฝนได้

Q : ติดกล่องแล้วจะได้ แรงม้า แรงบิด เหมือนกล่องดันราง กล่องจูน หรือไม่
A : เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันมาโดนตลอด กล่องกรองไฟจะช่วยในเรื่องระบบไฟเป็นหลัก เครื่องยนต์ก็ต้องการกำลังไฟ ระบบควบคุมก็ต้องการกำลังไฟ อุปกรณ์อํานวยความสะดวกก็ต้องการกำลังไฟ กล่องดันราง กล่องจูนก็ต้องการกำลังไฟ ในเรื่องของอันตราเร่งก็มีผลเนื่องจากเครื่องยนต์ได้รับกำลังไฟที่เพียงพอ จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์เดินเรียบกว่า ตอนที่ยังไม่ได้ติดกล่อง

Q : รถใหม่ ติดกรองไฟดีไหม
A : ติดกรองไฟไว้ก่อนก็ดี แต่อยากใช้ลองใช้รถเดิมๆ ไปก่อน เพราะว่ากรองไฟที่ติดมากับรถทำงานได้ดีอยู่ แต่กรองที่ติดมากับรถมีอายุการใช้งานที่น้อย การกรองพอใช้ได้ แต่ถ้าไปติดอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม การกรองก็จะด้อยคุณภาพลงไป ถ้าอยากติดกรองไฟก็สามารถติดได้เลย หรือรอซักปีค่อยมาติดก็ยังไม่สาย

Q : แต่งรถ ติดเกจ์วัดรอบต่างๆ บางที่ก็ลวนๆ ติดกรองไฟสามารถช่วยได้หรือไม่
A : กรองไฟสามารถช่วยให้เกจ์วัดรอบต่างๆ ทำงานได้ปกติ เพราะเกจ์แต่ละตัวต้องต่อจากหลายจุดในการวัดรอบต่างๆ และมีการใช้ไฟร่วมกับจุดจุดนั้น ทำให้เวลาส่วนที่วัดต่างๆ ทำงานมีการดึงไฟไปใช้ จึกทำให้ไฟไปเลี้ยงเกจ์ไม่เพียงพอ เลยเกิดอาการลวนได้

Q : ผู้ผลิต ผู้ขาย ได้เคยติดกล่องใช้เองบ้างไหม
A : แน่นอนว่า ผู้ผลิต ผู้ขาย ต้องติดกล่องใช้งานในรถของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าผู้ผลิต ผู้ขาย ยังไม่กล้าติดใช้ในรถตัวเอง แล้วจะไปขายให้ใครได้ แล้วผู้ซื้อจะมีความมั่นใจได้ยังไง จริงไหมครับ

Q : ถ้าวันนึง เราถอดกล่องออกจะมีผลกับเครื่องยนต์หรือไม่
A : ไม่มีผลกระทบกับเครื่องยนต์ กับระบบแน่นอน แค่ระบบไฟกลับไปเป็นเหมือนเดิมเท่านั้นเอง

Q. รถที่ติดตั้งกล่องไปจะเห็นผลเหมือนกันหรือไม่
A : หลังติดตั้งกล่องกรองไฟ อาการของรถแต่ละจะไม่เหมือนกัน บางคนก็บอกว่าเครื่องยนต์นิ่งเงียบกว่าเดิม บางคนก็บอกว่าแอร์เย็นขึ้น บางคนก็บอกว่ารอบมาไวขึ้ บางคนก็บอกว่าอาการสั่นสะเทือนที่เกิดจากเครื่องยนต์ เกียร์ ลดลง หลักๆ เลยคือคนขับเคยสังเกตอาการรถตัวเองหรือไม่

Q : ถอดกล่องออกแล้วไฟแสดงสถานะยังติดเป็นชั่วโมงๆ ปกติดหรือไม่
A : ปกติครับ เพราะความจุกระแสไฟฟ้าของกล่องมีเยอะมาก ทำให้เมื่อถอดกล่องออกมาแล้วไฟจะยังติดค้างอยู่ ไฟค้างน้อยหรือเป็นชั่วโมงขึ้นอยู่กับความจุกระแสไฟฟ้าของกล่องแต่ละรุ่นครับ

Q : ติดกล่องแล้วมันจะประหยัดน้ำมันขึ้นหรือไม่
A : ถ้าขับในเมือง อัตราสิ้นเปลืองปกติ แต่ถ้าขับ ต่างจังหวัด ยาวๆ 1 ถัง ได้ระยะทางเพิ่มประมาณ 40 - 80 กิโล หลังๆ เลยจะขึ้นอยู่กับการขับรถของแต่ละคน

Q : กรองไฟมีผลยังไงกับเครื่องยนต์
A : ช่วยกรองไฟที่เป็นสัญญานไม่เรียบ ให้เรียบขึ้น อุปกรณ์ไฟฟ้า dc ในรถยนต์จะทำงานได้ดีเยี่ยม ถ้าไฟไม่เรียบจะมีผลต่อการทำงานของระบบไฟฟ้ารถยนต์ ทำให้การจุดระเบิดเพี้ยนไป ไม่แม่นยำ การจ่ายน้ำมันก็เปลือง และเร่งไม่ขึ้น

Q : หลังดับเครื่อง ทำไมกล่องถึงร้อน ปกติหรือไม่
A : กล่องร้อนหลังจากดับเครื่องยนต์เป็นเรื่องปกติ เพราะเวลาเครื่องยนต์ทำงานจะเกิดความร้อนภายในห้องเครื่อง จึงเป็นเรื่องปกติอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องเครื่องจะร้อนตามไปด้วย สังเกตง่ายๆ หลังจากดับเครื่อยนต์ไว้คืนนึงให้ภายในห้องเครื่องเย็น แล้วลองแตะที่กล่องดู กล่องจะไม่มีความร้อน หรือถ้ากล่องร้อนก็ถือว่าไม่ปกติ
4

ไปเรียนต่างประเทศอดีตชีวิตจะดีขึ้นไหมเป็นคำถามที่แต่ละคนได้ยินมาเยอะไม่ว่าใครจะไ

« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2015-12-22 10:10:52 »

ดัน คะ
5

กรองไฟรถยนต์ระดับพรีเมี่ยม P Electronic Oil เพิ่มประสิทธิภาพ ให้รถที่คุณรัก

« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2015-08-04 23:15:38 »

[img width=600 height=337]http://dg.lnwfile.com/b9qx0n.jpg[/img]


ระบบไฟฟ้ามีความสำคัญต่อ ECU อย่างไร


ในปัจจุบัน ECU จะไม่ควบคุมเพียงแค่ การจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และ การจุดระเบิดเท่านั้น ECU ยังสามารถ ที่จะควบคุมระบบต่างๆ อาทิเช่นระบบปรับความยาวท่อร่วมไอดีแปรผัน ระบบวาล์วแปรผัน การทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ พัดลมระบายความร้อน ระบบควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น  ECU สามารถที่จะจัดการให้อุปกรณ์ต่างๆ ทำงานสัมพันธ์กันได้ กระแสไฟ dc ในรถก็สำคัญ ถ้าหากสม่ำเสมอกระแสไฟสม่ำเสมอ และไฟตกเป็นบางช่วง มีผลต่อการทำงานของ ECU กันเลยรถที่ออกจากโรงงานก็แน่นอนว่าเขาทำมาเพื่อให้พอใช้ได้ อะไรที่ตัดออกได้โดยที่มันไม่เกิดปัญหาในระยะสั้นเขาก็ไม่ติดให้คุณหรอกครับ แล้วเราจะทำยังไงเพื่อให้กระแสไฟไปเลี้ยง ECU อย่างสม่ำเสมอ ง่ายๆ แค่คุณติดตั้งกล่องกรองไฟ คำถามที่ว่า "แค่ใส่กล่องกรองไฟเข้าไป ทำไมถึงดีขึ้นได้" ไฟนิ่งทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และยังส่งผลให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีกำลังที่สูงขึ้น ยืดอายุการใช้งาน มีการตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และลดมลภาวะที่ปล่อยออกมา เป็นต้น ถึงแม้กล่องกรองไฟจะไม่ได้รถคุณเร็วเหมือนการจูนกล่อง ECU หรือคันเร่งไฟฟ้า แต่เชื่อเถอะว่ารถที่คุณรักจะอยู่กับคุณไปอีกนาน


โทร. 081-9105586 ปุ๊ก
Line : espadapuk
https://www.facebook.com/PElectronicPuk
http://pelectronicpuk.lnwshop.com/
6

ข้อคิดดีๆสำหรับคนที่กำลังเรียนและใกล้จะจบเกี่ยวกับการหางาน

« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2015-07-21 17:12:29 »

เรียนเป็นร้อยวิชาแต่ใช้แค่วิชาเดียวจริงหรือไม่!!!

เราเรียนวิชานี้ไปเพื่ออะไร? เรียนไปก็ไม่ได้ใช้? เรียนก็ไม่รู้เรื่อง? ไม่รู้จะมีสอนไปทำไม? ดึงเกรด? คำถามที่เกิดขึ้น
กับเด็กมหาลัยที่กำลังศึกษาอยู่หลายคนที่ต้องเรียนหลากหลายวิชาทั้งๆที่บ้างวิชาก็ไม่จำเป็นต้องเรียนด้วยซ้ำไป
เชื่อหรือไม่ว่าคำถามเหล่านี้เป็นคำถามที่เกิดขึ้นกับเด็กมหาลัยร้อยละ 80% เลยทีเดียวซึ่งเหตุผลที่เราจำเป็นต้องเรียน
หลากหลายวิชามันมีเหตุผลของมันอยู่ก็คือสถานศึกษาไม่สามารถทราบได้ว่านักศึกษาจะไปทำงานด้านไหนแล้วแต่ละ
วิชาที่เรียนก็เป็นวิชาหลักพื้นฐานเท่านั้นซึ่งจำเป็นเพราะรากฐานของวิชาต่อไปซึ่งก็คือวิชาเฉพาะนั้นเองสถานศึกษาจึง
จำเป็นต้องจัดตารางวิชาพื้นฐานให้นักศึกษาได้เรียนก่อนที่จะได้ลงไปในวิชาเฉพาะซึ่งวิชาเฉพาะก็จะเป็นวิชาที่สำคัญ
เพราะมีส่วนที่นำไปใช้ในการทำงานจริง

แล้วเราจะรู้ได้อย่างว่างานที่เราจะไปหางานต้องใช้วิชาไหนเป็นเฉพาะ
คำตอบของคำถามนี้ก็คือวิชาทุกวิชาที่เราเรียนมาเป็นแค่พื้นฐานในการทำงานเท่านั้นเมื่อต้องทำงานจริงเราก็เสมือนต้อง
เริ่มนับหนึ่งใหม่หรือเรียนใหม่นั้นเองซึ่งอาจจะกินกว่า2-3ปีกว่าเราจะเข้าใจทั้งหมดซึ่งพอถึงจุดนั้นเราก็จะได้ทำงานจริง
วิชาทุกวิชาที่เราเรียนมาล้วนสำคัญเพราะเป็นพื้นฐานนั้นเอง "ยิ่งเราพื้นฐานแน่นการต่อยอดความรู้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก"
สิ่งที่ยากที่สุดในการเรียนรู้ก็คือจุดเริ่มต้นนั้นเองเมื่อเราผ่านจุดนั้นมาได้ทุกอย่างหลังจากนั้นก็คือเรื่องกล้วยๆจำไว้เสมอว่า
การหางานไม่ใช่เรื่องน่ากลัวความพยายามและตั้งใจจะพาเราผ่านทุกอุปสรรคปัญหาต่างๆได้สติก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญ

เตรียมตัวอย่างไรระหว่างเรียนเพื่อให้จบออกมาไม่ตกงาน
1.ถามตัวเองก่อนว่าใฝ่ฝันอยากทำงานอะไร
2.พร้อมที่จะเผชิญกับอุปสรรคปัญหาต่างๆหรือไม่ถ้างานที่เราอยากทำนั้นต้องมีรับผิดชอบสูง
3.ระหว่างการศึกษาต้องไม่ลืมว่าการพัฒนาทักษะเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับงานที่อยากทำนั้นก็สำคัญ
4.ศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองอยู่เสมอทั้งด้านที่เกี่ยวข้องกับการหางานที่ตัวเองอยากทำและความรู้ทั่วไป
5.คิดอยู่เสมอว่าเกรดไม่ใช่ตัววัดว่าเราจะได้เลือกเข้าทำงานเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้้น

ทาง Jobcity.co.th หวังว่าข้อคิดและเทคนิคเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังจะเรียนจบและหางานทำไม่มากก็น้อย

http://upic.me/i/9w/1545930_570435009714816_1143924303_n.png
[move] JOBCITY.CO.TH เว็บไซค์หางานออนไลน์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองไทย [/move]



7

ใหม่!! Hero DC Filter กรองไฟรถยนต์ เพิ่มแรงม้า ปรับปรุงไฟ ประหยัดน้ำมัน บุคลิกเส

« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2013-06-27 08:49:31 »

เราทราบดีว่า หลายท่าน คงมีคำถามเดียวกันมากมาย ระหว่างกล่องเดิมๆ ที่ใส่อยู่ กับกล่องกรองไฟ Build To Order Club Hero DC Filter นั้น แตกต่างกันอย่างไร ทำไมต้องซื้อ ด้วยคำถามนี้ เราจึงจัด Mini Meeting และได้รับการตอบรับจาก ลูกค้าที่ไม่เคยมีโอกาสได้ทดสอบกล่องเดิมๆ ได้ทำการทดสอบด้วยเครื่องมือภาคสนาม เพื่อใช้เป็นข้อมูลอ้างอิงทางด้านเทคนิค ที่เรียกว่า.......

DYNO หรือชื่อเต็ม DYNAMOMETER เป็นเครื่องมือทดสอบวัดค่าแรงม้า และแรงบิดของเครื่องยนต์ซึ่งการตกแต่งรถยนต์ในปัจจุบันเราจะพบว่าเรื่องของสมรรถนะความแรงเครื่องยนต์ ถือเป็นปัจจัยต้นๆ ของการปรับแต่งรถยนต์เลยก็ว่าได้ค่ะ ไม่ว่าจะเพื่อการขับขี่ระยะทางไกล หรือเพื่อการแข่งขัน การนำรถไปลองขึ้นทดสอบวัดค่าแรงม้า และแรงบิดนั้น ถือเป็นกลยุทธ์ของการได้เปรียบคู่แข่ง และเพื่อทราบถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์อีกด้วย

ผลการทดสอบ F-Con + กล่องเดิม (สังเกตเส้นสีน้ำเงิน) และ ผลการทดสอบ F-Con + Build To Order Club Hero DC Filter (สังเกตเส้นสีแดง) ไม่แต่งกราฟ ไม่อัดอากาศเพิ่ม

http://img694.imageshack.us/img694/6183/051drl.jpg


http://img837.imageshack.us/img837/4066/045lk.jpg


http://img713.imageshack.us/img713/4645/058nd.jpg


**การวัดแรงม้าในแต่ละครั้งจะไม่เท่ากัน เนื่องจากมีหลายปัจจัย เช่น ความหนาแน่นของอากาศ และอุณหภูมิ อากาศร้อนจะหนาแน่นน้อย**

**โดยเฉพาะรถใหม่ที่ใช้เกียร์ CVT และ PCM หลังจากติดตั้ง Build To Order Club Hero DC Filter และได้ทดลองขับควบคู่ด้วยแล้ว จะยิ่งเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนระหว่างก่อนติดตั้งและหลังติดตั้ง กระทั่งกล่องเดิมๆ กับ Build To Order Club Hero DC Filter รับรองผล 100% การเปลี่ยนเกียร์จะลื่นขึ้น ไม่ตกครับ**

แนะนำวิธีการสั่งซื้อสินค้าที่รวดเร็ว
ติดต่อที่เบอร์ 08-7590-1969 คุณตุ๊ก (รับสายทุกวันถึงเที่ยงคืนครับ)
8

หาร้านทำเครื่องเสียงมีงบ 7 หมื่น

« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2013-04-19 16:52:16 »
สวย มาก เรย ครับ แต่ ผมมี งบ 7 หมื่นมันจะได้ อะไร บ้างละ ครับ เป็นคำถามของคนที่ไม่มีความรู้
9

ปรึกษาทีครับ

« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2013-02-23 15:14:20 »
มีหลายคำถามเลยครับ พอดีมือใหม่นะครับ
1.อยากได้ 10" คู่ โครงหล่อ วอยซ์คู่ 2.5 แม่เหล็ก 2 ก้อน เพาเวอร์ 2 ตัว เสียงกลางแหลม 4 คู่ ปรีแอมป์ 1 ตัว พร้อมงานซาวด์ งบประมาณ 30,000 พอไหมครับ
2.รถแค๊ปตู้พื้นหรือตู้ข้างดีครับ อยากได้แบบเพราะๆๆ ลอยๆๆ 
3.ระหว่างตู้ อคลิลิค กับ ไม้ อันไหนเสียงเพราะกว่าครับ
4.แนะนำยี่ห้อ ลำโพง,เพาเวอร์,ปรีแอมป์ ทีครับว่าน่าคบหากับยี่ห้อไหน
ขอบคุณมากครับ
10

จะให้เครื่องเสียงดังๆ มันขึ้นอยู่ที่อะไรบ้างอะคับ

« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2013-02-01 23:25:47 »
ที่ว่าดังอยากให้อะไรดังครับขอคำถามที่แคบกว่านี้หน่อยครับ