คู่มือผู้ใช้ SMF
1
« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2017-11-08 17:16:31 »
6 วิธีแก้อาการเมารถง่าย แบบได้ผลจริง เวียนหัว คลื่นไส้ขณะเดินทางป้องกันอย่างไรดี
ผมเชื่อว่าถ้าถามคำถามประเภท “ใครเคยเมารถบ้างยกมือขึ้น” ก็คงมีไม่น้อยที่ยกมือกันพรึบพรับ เพราะอาการเมารถนั้นมักจะเกิดขึ้นโดยไม่ทันตั้งตัว ที่ไหนและเมื่อไหร่ก็ได้ และเมื่อมันเกิดขึ้นมาแล้วมักจะสร้างความวิงเวียน ปวดหัว และกระอักกระอ่วน คลื่นไส้ให้กับผู้ที่มีอาการอยู่เป็นระลอก และที่ร้ายที่สุดก็จะทำให้ผู้มีอาการชนิดนี้อาเจียนออกมา ซึ่งทรมานไม่ใช่เล่นแถมยังเลอะเทอะอีกต่างหาก ดังนั้นวันนี้เราจึงอยากจะนำเสนอวิธีการแก้อาการเมารถมาฝากกันครับ
1. พยายามนั่งรถบริเวณส่วนหน้าของรถ ประสาทส่วนต่างๆ ของเราจะได้รับรู้ถึงจังหวะการเคลื่อนตัว รวมถึงอาการโคลงเคลงของรถได้ จากการทดลองพบว่าวิธีนี้ช่วยให้ผู้ชอบเมารถ มีอาการลดลงได้อย่างมาก ทั้งนี้ก็เพราะประสาทของเรารับรู้ความเคลื่อนไหวของรถ และปรับตัวตามนั่นเอง
2. ห้ามอ่านหนังสือ หรือเล่นโทรศัพท์ในขณะที่กำลังนั่งรถ ทั้งนี้ก็เพราะจะทำให้ประสาท หรือสมาธิของเราจดจ่ออยู่ที่ตรงข้างหน้าเท่านั้น และอาการที่ตามมาก็คือร่างกายปรับสมดุลตามการเคลื่อนไหวของรถไม่ได้ อาการเมาจึงมักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีพฤติกรรมอ่านหนังสือ/เล่นโทรศัพท์บนรถ ดังนั้นในขณะนั่งรถ เราจึงไม่ควรจ้องหรือเพ่งอะไรอยู่ที่จุดเดียว และพยายามมองวิวทิวทัศน์ภายนอกบ่อยๆก็จะช่วยลดอาการลงได้
3. จิบหรือดื่มน้ำอัดลมในปริมาณพอเหมาะ วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่รู้สึกมวนท้องมากๆ เพราะน้ำอัดลมจะไปช่วยขับดันกรดในกระเพาะออกมา สามารถลดอาการมวนท้องลงได้พอสมควร และนอกจากนี้ ผู้ที่มีอาการมวนท้องควรสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ในระหว่างที่เกิดอาการ ซึ่งการทำแบบนี้จะช่วยให้ความรู้สึกวิงเวียนนั้นลดลงได้ครับ
4. ยาหม่อง ยาดม ยาอม ยาหอม ช่วยท่านได้ เมื่อเริ่มมีอาการวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ ลองหยิบขึ้นมาสูดดมจะช่วยบรรเทาอาการได้ดีทีเดียว
5. กินยาแก้เมารถ เช่น ไดเมนไฮดริเนต (Dimenhydrinate) ปัจจุบันยาประเภทนี้มักมีขายตามร้านขายยาหรือร้านสะดวกซื้อทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่เริ่มมีอาการเมารถเกิดขึ้น ยาตัวนี้จะช่วยปรับความสมดุลของระบบประสาท ช่วยให้ร่างกายปรับตัวตามการเคลื่อนไหว หรือโคลงเคลงของรถ และขณะที่ยาตัวนี้กำลังออกฤทธิ์ จะทำให้ผู้ที่รับประทานเกิดอาการง่วงซึม แนะนำว่าให้หลับไปเลยก็ได้ครับ เพราะการนอนหลับระหว่างการเดินทางก็เป็นการแก้อาการเมารถชนิดหนึ่งเช่นกัน
6. รับประทานผลไม้ที่มีรสเปรี้ยว เช่นมะม่วง มะดัน หรือมะขาม ซึ่งรสเปรี้ยวจากผลไม้จะชนิดนี้จะสามารถช่วยลดอาการเมาหรือวิงเวียนลงได้พอสมควร แต่แนะนำว่าอย่ากินเยอะ เพราะจะเกิดกรดในกระเพาะ และทำให้ท้องเสียได้ ทีนี้แย่ยิ่งกว่าเมารถอีกนะครับ
นอกจากนี้ สำหรับคนที่ลองทำทุกวิธีแล้วยังไม่ได้ผล แนะนำให้ลงจากรถ แล้วหาที่ตั้งสติปรับสมดุลของร่างกายสักครู่แล้วค่อยออกเดินทางต่อ การที่ร่างกายได้พักและปรับตัวจะทำให้อาการเมารถลดลงได้เช่นกันครับ
2
« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2016-12-04 07:24:38 »
3
« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2016-07-27 16:40:07 »
F.A.Q. คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ กล่องกรองไฟ P Electronic Oil ทุกรุ่น
[img width=1000 height=563]https://scontent.fbkk12-1.fna.fbcdn.net/t31.0-8/13490772_1785160331718588_4475167326122684141_o.jpg[/img]
Q : ติดตั้งยังไง ติดตั้งยากไหม ต้องตัดต่อสายไฟไหม ต้องจูนไหม
A : ติดตั้งไม่ยาก สามารถติดตั้งเองได้ ต่อเข้ากับแบตเตอรี่ สายสีแดงต่อเข้าขั้วบวก สายสีดำต่อเข้าขั้วลบของแบตเตอรี่ ไม่มีการตัดต่อสายไฟ ไม่มีการจูนใดๆ ทั้งสิ้น
Q : กล่องช่วยในเรื่องอะไร
A : กล่องช่วยในเรื่องของระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ การกรองความถี่ที่ปะปนอยู่ในกระแสไฟฟ้า ที่เกิดจากการทำงานของไดชาร์ต ช่วยให้กระแสไฟที่จ่ายไปยังระบบอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ให้มีความเร็วและเรียบยิ่งขึ้น ลดความร้อนที่เกิดจากกระแสกระชากและไฟไม่เรียบ ให้อุปกรณ์ร้อนน้อยลง ยืดเวลาการเสื่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
Q : มีกล่องไฟยี่ห่ออื่น, กล่องดันราง, กล่องควบคุมแก๊ส(LPG) / ก๊าซ (CNG/NGV) อยู่แล้ว สามารถติดตั้งกล่องนีี้ได้หรือไม่
A : สามารถติดตั้งร่วมกันกับกล่องได้ทุกชนิด โดยไม่มีผลเสียใดๆ ทั้งสิ้น ช่วยเสริมให้กล่องพวกนั้นทำงานได้ดีขึ้น เพิ่มความสามารถให้กับกล่องอื่นๆ เช่นกล่องดันรางช่วยให้เพิ่มแรงม้า รอบมาไว ประหยัดน้ำมัน ช่วยยืดอายุกล่องอื่นๆ ได้เช่นเดียวกับยืดอายุแบตเตอรี่
Q : กล่องมีอายุการใช้งานได้กี่ปี
A : อายุการใช้งาน 5 ปีขึ้น เนื่องจากตัวเก็บประจุเป็นแบบ คาร์บอน สามารถอยู่ในอุณหภูมิสูงสุดที่ 105 องศาเซลเซียส โดยที่ไม่แห้งและเสือมสภาพ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่รถที่ติดตั้ง รถบางรุ่นแบตเตอรี่จะอยู่ในห้องโดยสารหรือที่เก็บของท้ายรถ ในส่วนนี้จะให้กล่องมีอายุที่ยาวนานขึ้นไปอีก
Q : สามารถนำกล่องที่ใช้งานแล้วไปติดตั้ง ยังรถอื่นๆ ได้อีกหรือไม่
A : สามารถถอดกล่องออกและติดตั้งใหม่ได้ไม่จำกัด โดยไม่มีผลต่อการทำงานของกล่องและไม่ทำให้กล่องเสียหาย
Q : ไฟ LED ที่ตัวกล่องหลังจากติดไปแล้ว ติดตลอดหรือไม่
A : ไฟแสดงสถานะ LED นั้น จะติดตลอดเวลา เพื่อแสดงว่ากล่องกำลังทำงาน โดยไม่ต้องกังกลว่า แบตเตอรี่ในรถยนต์ของคุณจะหมด เนื่องจากกล่องจะมีไฟเลี้ยงตัวเอง สังเกตได้เวลาถอดออกไฟจะยังติดอยู่เป็นชั่วโมงไฟ LED กินไฟน้อยมากๆ น้อยกว่าหลอดไฟ เวลาเปิดประตูรถ หรือ ไฟส่องสว่างในรถยนต์ ของคุณใช้เสียอีก จึงไม่ต้องกังวล
Q : สามารถติดตั้งหลายๆ กล่องพร้อมๆ กันได้หรือไม่
A : คุณสามารถติดตั้งหลายๆ กล่องพร้อมกันได้ ยิ่งติดมาก ค่ายิ่งเยอะ ยิ่งดี จะช่วยให้รองรับการโหลดของกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้น นั่นหมายถึงไฟจะนิ่งและคงที่มาก
Q : ค่า ฟารัด เยอะ ช่วยในเรื่องอะไร
A : ลองนึงถึงเครื่องปั้มน้ำ เมื่อใช้เครื่องปั้มน้ำกำลังน้อย ก็จะปัมได้อยู่ประมาณชั้นสองชั้นสาม พอชั้นสีน้ำเบา เมื่อใช้เครื่องปั้มน้ำที่มีกำลังมาก ก็จะปั้มได้ถึงชั้นเก้าชั้นสิบ โดยที่กำลังน้ำไม่ดรอปลงไปเลย ก็เหมือนกับกำลังไฟฟ้าที่จ่ายไปยังระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
Q : สามารถเอากล่องที่กำลังเยอะๆ ไปใส่ในรถเล็กๆ ได้ไหม
A : สารมารถใส่ได้ ยิ่งกำลังเยอะ ไฟก็จะไม่มีดรอป ลดการกระชากของไฟฟ้าได้มาก และรองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่ใช้ไฟฟ้าได้ดีอีกด้วย
Q : ติดกล่องไปแล้วจะหมดประกันศูนย์หรือไม่
A : ไม่หมดประกันศูนย์ เพราะไม่มีการตัดต่อ ดัดแปลง หรือการแก้ไขระบบใดๆ ทั้งสิ้น กล่องเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ จึงทำให้ไม่หมดประกัน
Q : ทำไมกล่องแต่ละรุ่นถึงมีเงื่อนไขในการติดตั้งไม่เหมือนกัน
A : กล่องแต่รุ่นได้ที่การทดสอบก่อนออกจำหน่ายจริง และทดลองกับรถยนต์หลายประเภท และการใช้กำลังไฟของเครื่องยนต์แต่ละขนาด แต่ละจำนวนกระบอกสูบ ใช้กำลังไฟไม่เท่ากัน และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ จึงทำให้กล่องแต่รุ่นมีความแต่ต่างและเหมาะสมกับการใช้งานจริง
Q : กล่องกรองไฟ P Electronic จึงมีราคาที่สูง
A : เนื่องด้วยวัสดุที่นำมาประกอบแต่ละชิ้น ต้องนำเข้าจากหลายๆ ประเทศ จึงทำให้มีต้นทุนที่สูงกว่า และคุณภาพที่ดีกว่า
Q : กล่องสามารถติดตั้งรถรุ่นไหนได้บ้าง ติดตั้งกับเชื้อเพลิงแบบไหนได้บ้าง
A : สามารถติดตั้งได้กับรถทุกประเภท รถเก่ารถใหม่ป้ายแดงก็ติดได้ ติดตั้งกับเชื้อเพลิงทุกชนิด ขอให้รถมีแบตเตอรี่กับไดชาร์ตก็พอ
Q : ดับเครื่องแล้ว ไฟที่กล่องยังทำงาน จะส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วหรือไม่
A : กล่องจะมีวงจรและตัวเก็บประจุอีกชุดไว้สำหรับ เลี้ยงไฟแสดงสถานะ จึงไม่มีการดึงไฟจากแบตเตอรี่ใดๆ ทั้งสิ้น กล่องจะทำงานก็ต่อเมื่อทำการสตาร์ทและไดชาร์ตทำงานแล้วเท่านั้น
Q : กล่องสามารถโดนน้ำได้หรือไม่ เผื่อเวลาทำความสะอาดห้องเครื่อง
A : กล่องสามารถโดนน้ำได้ ภายในกล่องได้มีการเทเรซิ่นเพื่อป้องกันน้ำโดนแผงวงจรและอุปกรณ์ เพราะเรารู้ว่ากล่องส่วนมากต้องติดตั้งอยู่ภายในห้องเครื่อง ต้องมีการโดนน้ำโดนฝุ่นเป็นเรื่องปกติ
Q : กล่องสามารถทนความร้อนได้ขนาดไหน
A : กล่องสามารถอยู่ในอุณหภูมิสูงสุดที่ 105 องศาเซลเซียส และกล่องอลูมิเนียมสามารถระบายความร้อนได้เร็ว โดนปกติทั่วไปอุณหภูมิภายในห้องเครื่องจะไม่เกิน 95 องศาเซลเซียส จึงไม่มีปัญหาที่จะติดตั้งกล่องไว้ในห้องเครื่อง หรือสำหรับมอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ ก็สามารถติดตั้งไว้ในส่วนที่โดนน้ำโดนฝนได้
Q : ติดกล่องแล้วจะได้ แรงม้า แรงบิด เหมือนกล่องดันราง กล่องจูน หรือไม่
A : เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันมาโดนตลอด กล่องกรองไฟจะช่วยในเรื่องระบบไฟเป็นหลัก เครื่องยนต์ก็ต้องการกำลังไฟ ระบบควบคุมก็ต้องการกำลังไฟ อุปกรณ์อํานวยความสะดวกก็ต้องการกำลังไฟ กล่องดันราง กล่องจูนก็ต้องการกำลังไฟ ในเรื่องของอันตราเร่งก็มีผลเนื่องจากเครื่องยนต์ได้รับกำลังไฟที่เพียงพอ จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์เดินเรียบกว่า ตอนที่ยังไม่ได้ติดกล่อง
Q : รถใหม่ ติดกรองไฟดีไหม
A : ติดกรองไฟไว้ก่อนก็ดี แต่อยากใช้ลองใช้รถเดิมๆ ไปก่อน เพราะว่ากรองไฟที่ติดมากับรถทำงานได้ดีอยู่ แต่กรองที่ติดมากับรถมีอายุการใช้งานที่น้อย การกรองพอใช้ได้ แต่ถ้าไปติดอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม การกรองก็จะด้อยคุณภาพลงไป ถ้าอยากติดกรองไฟก็สามารถติดได้เลย หรือรอซักปีค่อยมาติดก็ยังไม่สาย
Q : แต่งรถ ติดเกจ์วัดรอบต่างๆ บางที่ก็ลวนๆ ติดกรองไฟสามารถช่วยได้หรือไม่
A : กรองไฟสามารถช่วยให้เกจ์วัดรอบต่างๆ ทำงานได้ปกติ เพราะเกจ์แต่ละตัวต้องต่อจากหลายจุดในการวัดรอบต่างๆ และมีการใช้ไฟร่วมกับจุดจุดนั้น ทำให้เวลาส่วนที่วัดต่างๆ ทำงานมีการดึงไฟไปใช้ จึกทำให้ไฟไปเลี้ยงเกจ์ไม่เพียงพอ เลยเกิดอาการลวนได้
Q : ผู้ผลิต ผู้ขาย ได้เคยติดกล่องใช้เองบ้างไหม
A : แน่นอนว่า ผู้ผลิต ผู้ขาย ต้องติดกล่องใช้งานในรถของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าผู้ผลิต ผู้ขาย ยังไม่กล้าติดใช้ในรถตัวเอง แล้วจะไปขายให้ใครได้ แล้วผู้ซื้อจะมีความมั่นใจได้ยังไง จริงไหมครับ
Q : ถ้าวันนึง เราถอดกล่องออกจะมีผลกับเครื่องยนต์หรือไม่
A : ไม่มีผลกระทบกับเครื่องยนต์ กับระบบแน่นอน แค่ระบบไฟกลับไปเป็นเหมือนเดิมเท่านั้นเอง
Q. รถที่ติดตั้งกล่องไปจะเห็นผลเหมือนกันหรือไม่
A : หลังติดตั้งกล่องกรองไฟ อาการของรถแต่ละจะไม่เหมือนกัน บางคนก็บอกว่าเครื่องยนต์นิ่งเงียบกว่าเดิม บางคนก็บอกว่าแอร์เย็นขึ้น บางคนก็บอกว่ารอบมาไวขึ้ บางคนก็บอกว่าอาการสั่นสะเทือนที่เกิดจากเครื่องยนต์ เกียร์ ลดลง หลักๆ เลยคือคนขับเคยสังเกตอาการรถตัวเองหรือไม่
Q : ถอดกล่องออกแล้วไฟแสดงสถานะยังติดเป็นชั่วโมงๆ ปกติดหรือไม่
A : ปกติครับ เพราะความจุกระแสไฟฟ้าของกล่องมีเยอะมาก ทำให้เมื่อถอดกล่องออกมาแล้วไฟจะยังติดค้างอยู่ ไฟค้างน้อยหรือเป็นชั่วโมงขึ้นอยู่กับความจุกระแสไฟฟ้าของกล่องแต่ละรุ่นครับ
Q : ติดกล่องแล้วมันจะประหยัดน้ำมันขึ้นหรือไม่
A : ถ้าขับในเมือง อัตราสิ้นเปลืองปกติ แต่ถ้าขับ ต่างจังหวัด ยาวๆ 1 ถัง ได้ระยะทางเพิ่มประมาณ 40 - 80 กิโล หลังๆ เลยจะขึ้นอยู่กับการขับรถของแต่ละคน
Q : กรองไฟมีผลยังไงกับเครื่องยนต์
A : ช่วยกรองไฟที่เป็นสัญญานไม่เรียบ ให้เรียบขึ้น อุปกรณ์ไฟฟ้า dc ในรถยนต์จะทำงานได้ดีเยี่ยม ถ้าไฟไม่เรียบจะมีผลต่อการทำงานของระบบไฟฟ้ารถยนต์ ทำให้การจุดระเบิดเพี้ยนไป ไม่แม่นยำ การจ่ายน้ำมันก็เปลือง และเร่งไม่ขึ้น
Q : หลังดับเครื่อง ทำไมกล่องถึงร้อน ปกติหรือไม่
A : กล่องร้อนหลังจากดับเครื่องยนต์เป็นเรื่องปกติ เพราะเวลาเครื่องยนต์ทำงานจะเกิดความร้อนภายในห้องเครื่อง จึงเป็นเรื่องปกติอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องเครื่องจะร้อนตามไปด้วย สังเกตง่ายๆ หลังจากดับเครื่อยนต์ไว้คืนนึงให้ภายในห้องเครื่องเย็น แล้วลองแตะที่กล่องดู กล่องจะไม่มีความร้อน หรือถ้ากล่องร้อนก็ถือว่าไม่ปกติ
4
« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2015-12-22 10:10:52 »
ดัน คะ
5
« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2015-08-04 23:15:38 »
[img width=600 height=337]http://dg.lnwfile.com/b9qx0n.jpg[/img]
ระบบไฟฟ้ามีความสำคัญต่อ ECU อย่างไร
ในปัจจุบัน ECU จะไม่ควบคุมเพียงแค่ การจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และ การจุดระเบิดเท่านั้น ECU ยังสามารถ ที่จะควบคุมระบบต่างๆ อาทิเช่นระบบปรับความยาวท่อร่วมไอดีแปรผัน ระบบวาล์วแปรผัน การทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ พัดลมระบายความร้อน ระบบควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น ECU สามารถที่จะจัดการให้อุปกรณ์ต่างๆ ทำงานสัมพันธ์กันได้ กระแสไฟ dc ในรถก็สำคัญ ถ้าหากสม่ำเสมอกระแสไฟสม่ำเสมอ และไฟตกเป็นบางช่วง มีผลต่อการทำงานของ ECU กันเลยรถที่ออกจากโรงงานก็แน่นอนว่าเขาทำมาเพื่อให้พอใช้ได้ อะไรที่ตัดออกได้โดยที่มันไม่เกิดปัญหาในระยะสั้นเขาก็ไม่ติดให้คุณหรอกครับ แล้วเราจะทำยังไงเพื่อให้กระแสไฟไปเลี้ยง ECU อย่างสม่ำเสมอ ง่ายๆ แค่คุณติดตั้งกล่องกรองไฟ คำถามที่ว่า "แค่ใส่กล่องกรองไฟเข้าไป ทำไมถึงดีขึ้นได้" ไฟนิ่งทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และยังส่งผลให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีกำลังที่สูงขึ้น ยืดอายุการใช้งาน มีการตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และลดมลภาวะที่ปล่อยออกมา เป็นต้น ถึงแม้กล่องกรองไฟจะไม่ได้รถคุณเร็วเหมือนการจูนกล่อง ECU หรือคันเร่งไฟฟ้า แต่เชื่อเถอะว่ารถที่คุณรักจะอยู่กับคุณไปอีกนาน
โทร. 081-9105586 ปุ๊ก
Line : espadapuk
https://www.facebook.com/PElectronicPuk
http://pelectronicpuk.lnwshop.com/
6
« โดย พยายาม เมื่อ พฤศจิกายน 2015-07-21 17:12:29 »
เรียนเป็นร้อยวิชาแต่ใช้แค่วิชาเดียวจริงหรือไม่!!!เราเรียนวิชานี้ไปเพื่ออะไร? เรียนไปก็ไม่ได้ใช้? เรียนก็ไม่รู้เรื่อง? ไม่รู้จะมีสอนไปทำไม? ดึงเกรด?
คำถามที่เกิดขึ้น
กับเด็กมหาลัยที่กำลังศึกษาอยู่หลายคนที่ต้องเรียนหลากหลายวิชาทั้งๆที่บ้างวิชาก็ไม่จำเป็นต้องเรียนด้วยซ้ำไป
เชื่อหรือไม่ว่า
คำถามเหล่านี้เป็น
คำถามที่เกิดขึ้นกับเด็กมหาลัยร้อยละ 80% เลยทีเดียวซึ่งเหตุผลที่เราจำเป็นต้องเรียน
หลากหลายวิชามันมีเหตุผลของมันอยู่ก็คือสถานศึกษาไม่สามารถทราบได้ว่านักศึกษาจะไปทำงานด้านไหนแล้วแต่ละ
วิชาที่เรียนก็เป็นวิชาหลักพื้นฐานเท่านั้นซึ่งจำเป็นเพราะรากฐานของวิชาต่อไปซึ่งก็คือวิชาเฉพาะนั้นเองสถานศึกษาจึง
จำเป็นต้องจัดตารางวิชาพื้นฐานให้นักศึกษาได้เรียนก่อนที่จะได้ลงไปในวิชาเฉพาะซึ่งวิชาเฉพาะก็จะเป็นวิชาที่สำคัญ
เพราะมีส่วนที่นำไปใช้ในการทำงานจริง
แล้วเราจะรู้ได้อย่างว่างานที่เราจะไปหางานต้องใช้วิชาไหนเป็นเฉพาะคำตอบของ
คำถามนี้ก็คือวิชาทุกวิชาที่เราเรียนมาเป็นแค่พื้นฐานในการทำงานเท่านั้นเมื่อต้องทำงานจริงเราก็เสมือนต้อง
เริ่มนับหนึ่งใหม่หรือเรียนใหม่นั้นเองซึ่งอาจจะกินกว่า2-3ปีกว่าเราจะเข้าใจทั้งหมดซึ่งพอถึงจุดนั้นเราก็จะได้ทำงานจริง
วิชาทุกวิชาที่เราเรียนมาล้วนสำคัญเพราะเป็นพื้นฐานนั้นเอง
"ยิ่งเราพื้นฐานแน่นการต่อยอดความรู้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก"สิ่งที่ยากที่สุดในการเรียนรู้ก็คือจุดเริ่มต้นนั้นเองเมื่อเราผ่านจุดนั้นมาได้ทุกอย่างหลังจากนั้นก็คือเรื่องกล้วยๆจำไว้เสมอว่า
การ
หางานไม่ใช่เรื่องน่ากลัวความพยายามและตั้งใจจะพาเราผ่านทุกอุปสรรคปัญหาต่างๆได้สติก็เป็นสิ่งหนึ่งที่สำคัญ
เตรียมตัวอย่างไรระหว่างเรียนเพื่อให้จบออกมาไม่ตกงาน1.ถามตัวเองก่อนว่าใฝ่ฝันอยากทำงานอะไร
2.พร้อมที่จะเผชิญกับอุปสรรคปัญหาต่างๆหรือไม่ถ้างานที่เราอยากทำนั้นต้องมีรับผิดชอบสูง
3.ระหว่างการศึกษาต้องไม่ลืมว่าการพัฒนาทักษะเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องกับงานที่อยากทำนั้นก็สำคัญ
4.ศึกษาหาความรู้ด้วยตัวเองอยู่เสมอทั้งด้านที่เกี่ยวข้องกับการ
หางานที่ตัวเองอยากทำและความรู้ทั่วไป
5.คิดอยู่เสมอว่าเกรดไม่ใช่ตัววัดว่าเราจะได้เลือกเข้าทำงานเป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้้น
ทาง Jobcity.co.th หวังว่าข้อคิดและเทคนิคเหล่านี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังจะเรียนจบและหางานทำไม่มากก็น้อย [move]
JOBCITY.CO.TH เว็บไซค์หางานออนไลน์ยอดนิยมอันดับหนึ่งของเมืองไทย [/move]