Thailand Web Stat Truehits.net
аёаёІаёўа№ЂаёаёЈаёа№Ђаёаёа№ЂаёЄаёаёўаёаёЎаёаёаёЄаёаё

แสดงกระทู้

This section allows you to view all posts made by this member. Note that you can only see posts made in areas you currently have access to.


Messages - MaFiaPuk

หน้า: 1
1
กล่องเพิ่มกำลังไฟ P Electronic Oil รุ่นไหนเหมาะกับรถจักรยานยนต์ของคุณ
























2
กล่องเพิ่มกำลังไฟ P Electronic Oil รุ่นไหนเหมาะกับรถยนต์ของคุณ


































































3
กรองไฟ P Electronic ที่ติดตั้งกับรถจักรยานยนต์ Yamaha






























5
กรองไฟ P Electronic ที่ติดตั้งกับรถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ Suzuki






6
กรองไฟ P Electronic ที่ติดตั้งกับรถจักรยานยนต์ Stallion


9
กรองไฟ P Electronic ที่ติดตั้งกับรถยนต์ Mercedes Benz






11
กรองไฟ P Electronic ที่ติดตั้งกับรถจักรยานยนต์ Kawasaki






13
กรองไฟ P Electronic ที่ติดตั้งกับรถยนต์ และ รถจักรยานยนต์ Honda




















































































18
รีวิวจากคุณลูกค้าผู้ใช้งานจริงกล่องกรองไฟ P Electronic Oil
























































































19
F.A.Q. คำถามที่พบบ่อย เกี่ยวกับ กล่องกรองไฟ P Electronic Oil ทุกรุ่น



Q : ติดตั้งยังไง ติดตั้งยากไหม ต้องตัดต่อสายไฟไหม ต้องจูนไหม
A : ติดตั้งไม่ยาก สามารถติดตั้งเองได้ ต่อเข้ากับแบตเตอรี่ สายสีแดงต่อเข้าขั้วบวก สายสีดำต่อเข้าขั้วลบของแบตเตอรี่ ไม่มีการตัดต่อสายไฟ ไม่มีการจูนใดๆ ทั้งสิ้น

Q : กล่องช่วยในเรื่องอะไร
A : กล่องช่วยในเรื่องของระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์ การกรองความถี่ที่ปะปนอยู่ในกระแสไฟฟ้า ที่เกิดจากการทำงานของไดชาร์ต ช่วยให้กระแสไฟที่จ่ายไปยังระบบอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ให้มีความเร็วและเรียบยิ่งขึ้น ลดความร้อนที่เกิดจากกระแสกระชากและไฟไม่เรียบ ให้อุปกรณ์ร้อนน้อยลง ยืดเวลาการเสื่อมอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ และทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น

Q : มีกล่องไฟยี่ห่ออื่น, กล่องดันราง, กล่องควบคุมแก๊ส(LPG) / ก๊าซ (CNG/NGV) อยู่แล้ว สามารถติดตั้งกล่องนีี้ได้หรือไม่
A : สามารถติดตั้งร่วมกันกับกล่องได้ทุกชนิด โดยไม่มีผลเสียใดๆ ทั้งสิ้น ช่วยเสริมให้กล่องพวกนั้นทำงานได้ดีขึ้น เพิ่มความสามารถให้กับกล่องอื่นๆ เช่นกล่องดันรางช่วยให้เพิ่มแรงม้า รอบมาไว ประหยัดน้ำมัน ช่วยยืดอายุกล่องอื่นๆ ได้เช่นเดียวกับยืดอายุแบตเตอรี่

Q : กล่องมีอายุการใช้งานได้กี่ปี
A : อายุการใช้งาน 5 ปีขึ้น เนื่องจากตัวเก็บประจุเป็นแบบ คาร์บอน สามารถอยู่ในอุณหภูมิสูงสุดที่ 105 องศาเซลเซียส โดยที่ไม่แห้งและเสือมสภาพ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่รถที่ติดตั้ง รถบางรุ่นแบตเตอรี่จะอยู่ในห้องโดยสารหรือที่เก็บของท้ายรถ ในส่วนนี้จะให้กล่องมีอายุที่ยาวนานขึ้นไปอีก

Q : สามารถนำกล่องที่ใช้งานแล้วไปติดตั้ง ยังรถอื่นๆ ได้อีกหรือไม่
A : สามารถถอดกล่องออกและติดตั้งใหม่ได้ไม่จำกัด โดยไม่มีผลต่อการทำงานของกล่องและไม่ทำให้กล่องเสียหาย

Q : ไฟ LED ที่ตัวกล่องหลังจากติดไปแล้ว ติดตลอดหรือไม่
A : ไฟแสดงสถานะ LED นั้น จะติดตลอดเวลา เพื่อแสดงว่ากล่องกำลังทำงาน โดยไม่ต้องกังกลว่า แบตเตอรี่ในรถยนต์ของคุณจะหมด เนื่องจากกล่องจะมีไฟเลี้ยงตัวเอง สังเกตได้เวลาถอดออกไฟจะยังติดอยู่เป็นชั่วโมงไฟ LED กินไฟน้อยมากๆ น้อยกว่าหลอดไฟ เวลาเปิดประตูรถ หรือ ไฟส่องสว่างในรถยนต์ ของคุณใช้เสียอีก จึงไม่ต้องกังวล

Q : สามารถติดตั้งหลายๆ กล่องพร้อมๆ กันได้หรือไม่
A : คุณสามารถติดตั้งหลายๆ กล่องพร้อมกันได้ ยิ่งติดมาก ค่ายิ่งเยอะ ยิ่งดี จะช่วยให้รองรับการโหลดของกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้น นั่นหมายถึงไฟจะนิ่งและคงที่มาก

Q : ค่า ฟารัด เยอะ ช่วยในเรื่องอะไร
A : ลองนึงถึงเครื่องปั้มน้ำ เมื่อใช้เครื่องปั้มน้ำกำลังน้อย ก็จะปัมได้อยู่ประมาณชั้นสองชั้นสาม พอชั้นสีน้ำเบา เมื่อใช้เครื่องปั้มน้ำที่มีกำลังมาก ก็จะปั้มได้ถึงชั้นเก้าชั้นสิบ โดยที่กำลังน้ำไม่ดรอปลงไปเลย ก็เหมือนกับกำลังไฟฟ้าที่จ่ายไปยังระบบและอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ

Q : สามารถเอากล่องที่กำลังเยอะๆ ไปใส่ในรถเล็กๆ ได้ไหม
A : สารมารถใส่ได้ ยิ่งกำลังเยอะ ไฟก็จะไม่มีดรอป ลดการกระชากของไฟฟ้าได้มาก และรองรับการติดตั้งอุปกรณ์เสริมที่ใช้ไฟฟ้าได้ดีอีกด้วย

Q : ติดกล่องไปแล้วจะหมดประกันศูนย์หรือไม่
A : ไม่หมดประกันศูนย์ เพราะไม่มีการตัดต่อ ดัดแปลง หรือการแก้ไขระบบใดๆ ทั้งสิ้น กล่องเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพ จึงทำให้ไม่หมดประกัน

Q : ทำไมกล่องแต่ละรุ่นถึงมีเงื่อนไขในการติดตั้งไม่เหมือนกัน
A : กล่องแต่รุ่นได้ที่การทดสอบก่อนออกจำหน่ายจริง และทดลองกับรถยนต์หลายประเภท และการใช้กำลังไฟของเครื่องยนต์แต่ละขนาด แต่ละจำนวนกระบอกสูบ ใช้กำลังไฟไม่เท่ากัน และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ จึงทำให้กล่องแต่รุ่นมีความแต่ต่างและเหมาะสมกับการใช้งานจริง

Q : ‪กล่องกรองไฟ‬ ‪‎P Electronic‬ จึงมีราคาที่สูง
A : เนื่องด้วยวัสดุที่นำมาประกอบแต่ละชิ้น ต้องนำเข้าจากหลายๆ ประเทศ จึงทำให้มีต้นทุนที่สูงกว่า และคุณภาพที่ดีกว่า

Q : กล่องสามารถติดตั้งรถรุ่นไหนได้บ้าง ติดตั้งกับเชื้อเพลิงแบบไหนได้บ้าง
A : สามารถติดตั้งได้กับรถทุกประเภท รถเก่ารถใหม่ป้ายแดงก็ติดได้ ติดตั้งกับเชื้อเพลิงทุกชนิด ขอให้รถมีแบตเตอรี่กับไดชาร์ตก็พอ

Q : ดับเครื่องแล้ว ไฟที่กล่องยังทำงาน จะส่งผลให้แบตเตอรี่หมดเร็วหรือไม่
A : กล่องจะมีวงจรและตัวเก็บประจุอีกชุดไว้สำหรับ เลี้ยงไฟแสดงสถานะ จึงไม่มีการดึงไฟจากแบตเตอรี่ใดๆ ทั้งสิ้น กล่องจะทำงานก็ต่อเมื่อทำการสตาร์ทและไดชาร์ตทำงานแล้วเท่านั้น

Q : กล่องสามารถโดนน้ำได้หรือไม่ เผื่อเวลาทำความสะอาดห้องเครื่อง
A : กล่องสามารถโดนน้ำได้ ภายในกล่องได้มีการเทเรซิ่นเพื่อป้องกันน้ำโดนแผงวงจรและอุปกรณ์ เพราะเรารู้ว่ากล่องส่วนมากต้องติดตั้งอยู่ภายในห้องเครื่อง ต้องมีการโดนน้ำโดนฝุ่นเป็นเรื่องปกติ

Q : กล่องสามารถทนความร้อนได้ขนาดไหน
A : กล่องสามารถอยู่ในอุณหภูมิสูงสุดที่ 105 องศาเซลเซียส และกล่องอลูมิเนียมสามารถระบายความร้อนได้เร็ว โดนปกติทั่วไปอุณหภูมิภายในห้องเครื่องจะไม่เกิน 95 องศาเซลเซียส จึงไม่มีปัญหาที่จะติดตั้งกล่องไว้ในห้องเครื่อง หรือสำหรับมอเตอร์ไซค์ บิ๊กไบค์ ก็สามารถติดตั้งไว้ในส่วนที่โดนน้ำโดนฝนได้

Q : ติดกล่องแล้วจะได้ แรงม้า แรงบิด เหมือนกล่องดันราง กล่องจูน หรือไม่
A : เป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกันมาโดนตลอด กล่องกรองไฟจะช่วยในเรื่องระบบไฟเป็นหลัก เครื่องยนต์ก็ต้องการกำลังไฟ ระบบควบคุมก็ต้องการกำลังไฟ อุปกรณ์อํานวยความสะดวกก็ต้องการกำลังไฟ กล่องดันราง กล่องจูนก็ต้องการกำลังไฟ ในเรื่องของอันตราเร่งก็มีผลเนื่องจากเครื่องยนต์ได้รับกำลังไฟที่เพียงพอ จะเห็นได้ว่าเครื่องยนต์เดินเรียบกว่า ตอนที่ยังไม่ได้ติดกล่อง

Q : รถใหม่ ติดกรองไฟดีไหม
A : ติดกรองไฟไว้ก่อนก็ดี แต่อยากใช้ลองใช้รถเดิมๆ ไปก่อน เพราะว่ากรองไฟที่ติดมากับรถทำงานได้ดีอยู่ แต่กรองที่ติดมากับรถมีอายุการใช้งานที่น้อย การกรองพอใช้ได้ แต่ถ้าไปติดอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม การกรองก็จะด้อยคุณภาพลงไป ถ้าอยากติดกรองไฟก็สามารถติดได้เลย หรือรอซักปีค่อยมาติดก็ยังไม่สาย

Q : แต่งรถ ติดเกจ์วัดรอบต่างๆ บางที่ก็ลวนๆ ติดกรองไฟสามารถช่วยได้หรือไม่
A : กรองไฟสามารถช่วยให้เกจ์วัดรอบต่างๆ ทำงานได้ปกติ เพราะเกจ์แต่ละตัวต้องต่อจากหลายจุดในการวัดรอบต่างๆ และมีการใช้ไฟร่วมกับจุดจุดนั้น ทำให้เวลาส่วนที่วัดต่างๆ ทำงานมีการดึงไฟไปใช้ จึกทำให้ไฟไปเลี้ยงเกจ์ไม่เพียงพอ เลยเกิดอาการลวนได้

Q : ผู้ผลิต ผู้ขาย ได้เคยติดกล่องใช้เองบ้างไหม
A : แน่นอนว่า ผู้ผลิต ผู้ขาย ต้องติดกล่องใช้งานในรถของตัวเองอยู่แล้ว ถ้าผู้ผลิต ผู้ขาย ยังไม่กล้าติดใช้ในรถตัวเอง แล้วจะไปขายให้ใครได้ แล้วผู้ซื้อจะมีความมั่นใจได้ยังไง จริงไหมครับ

Q : ถ้าวันนึง เราถอดกล่องออกจะมีผลกับเครื่องยนต์หรือไม่
A : ไม่มีผลกระทบกับเครื่องยนต์ กับระบบแน่นอน แค่ระบบไฟกลับไปเป็นเหมือนเดิมเท่านั้นเอง

Q. รถที่ติดตั้งกล่องไปจะเห็นผลเหมือนกันหรือไม่
A : หลังติดตั้งกล่องกรองไฟ อาการของรถแต่ละจะไม่เหมือนกัน บางคนก็บอกว่าเครื่องยนต์นิ่งเงียบกว่าเดิม บางคนก็บอกว่าแอร์เย็นขึ้น บางคนก็บอกว่ารอบมาไวขึ้ บางคนก็บอกว่าอาการสั่นสะเทือนที่เกิดจากเครื่องยนต์ เกียร์ ลดลง หลักๆ เลยคือคนขับเคยสังเกตอาการรถตัวเองหรือไม่
 
Q : ถอดกล่องออกแล้วไฟแสดงสถานะยังติดเป็นชั่วโมงๆ ปกติดหรือไม่
A : ปกติครับ เพราะความจุกระแสไฟฟ้าของกล่องมีเยอะมาก ทำให้เมื่อถอดกล่องออกมาแล้วไฟจะยังติดค้างอยู่ ไฟค้างน้อยหรือเป็นชั่วโมงขึ้นอยู่กับความจุกระแสไฟฟ้าของกล่องแต่ละรุ่นครับ
 
Q : ติดกล่องแล้วมันจะประหยัดน้ำมันขึ้นหรือไม่
A : ถ้าขับในเมือง อัตราสิ้นเปลืองปกติ แต่ถ้าขับ ต่างจังหวัด ยาวๆ 1 ถัง ได้ระยะทางเพิ่มประมาณ 40 - 80 กิโล หลังๆ เลยจะขึ้นอยู่กับการขับรถของแต่ละคน
 
Q : กรองไฟมีผลยังไงกับเครื่องยนต์
A : ช่วยกรองไฟที่เป็นสัญญานไม่เรียบ ให้เรียบขึ้น อุปกรณ์ไฟฟ้า dc ในรถยนต์จะทำงานได้ดีเยี่ยม ถ้าไฟไม่เรียบจะมีผลต่อการทำงานของระบบไฟฟ้ารถยนต์ ทำให้การจุดระเบิดเพี้ยนไป ไม่แม่นยำ การจ่ายน้ำมันก็เปลือง และเร่งไม่ขึ้น
 
Q : หลังดับเครื่อง ทำไมกล่องถึงร้อน ปกติหรือไม่
A : กล่องร้อนหลังจากดับเครื่องยนต์เป็นเรื่องปกติ เพราะเวลาเครื่องยนต์ทำงานจะเกิดความร้อนภายในห้องเครื่อง จึงเป็นเรื่องปกติอุปกรณ์ต่างๆ ภายในห้องเครื่องจะร้อนตามไปด้วย สังเกตง่ายๆ หลังจากดับเครื่อยนต์ไว้คืนนึงให้ภายในห้องเครื่องเย็น แล้วลองแตะที่กล่องดู กล่องจะไม่มีความร้อน หรือถ้ากล่องร้อนก็ถือว่าไม่ปกติ

20


ข้อมูลเทคนิค

กรองไฟ P Electronic มีคุณสมบัติพิเศษที่กรองไฟทั่วไปไม่มี ด้วย วงจรพิเศษ สองชั้น ควบคุมการทำงาน เพื่อให้ระบบไฟมีความเสถียรยิ่งกว่าเดิม เพราะกรองไฟ P Electronic มีความจุของกระแสไฟฟ้ามากกว่ากรองไฟทั่วไป เป็นพันเท่า วงจร ชุดที่หนึ่ง จะทำให้การเก็บแหละการจ่ายกระแสไฟมีความรวดเร็วมาก มากกว่าแบตเตอรี่เป็นร้อยเท่า และรักษาระดับแรงดันไฟฟ้าให้คงที่ การกรองความถี่หรือสัญญาณที่ปะปนเข้ามากับกระแสไฟ ที่เกิดไดชาร์จ และ วงจร ชุดที่สอง จะทำการกักเก็บพลังงานไฟฟ้าไว้ เมื่อดับเครื่องยนต์ จะไม่มีการดึกไฟจาก แบตเตอรี่ เพื่อมาใช้ กล่องจะงานเมื่อมีการสตาร์ทแล้วไดชาร์จเริ่มทำงาน หรือเมื่อมีความถี่ที่เข้ามาปะปนในกระแสไฟฟ้า จึงทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้น

ระบบสมองกลของรถยนต์ (ECU) จะประมวลผลได้แม่นยำขึ้น ส่งผลให้เครื่องยนต์เผาไหม้ได้สมบูรณ์ขึ้นจึงทำให้อัตราเร่งดีขึ้น และประหยัดน้ำมันเพิ่มมากขึ้น ระบบชาร์จไวขึ้นและประสิทธิ์ภาพมากขึ้น ไดชาร์จน้อยลง อายุแบตเตอรี่มากขึ้น ระบบแอร์เย็นไวขึ้น ระบบแสงสว่างไฟส่องทางสว่างมากขึ้นไม่มีไฟกระพริบไฟตก ระบบเสียงใส่ขึ้น

ระบบป้องกัน สองชั้น เพื่อความปลอดภัย รักษารถ รักษากล่อง ทาง P Electronic จัด ฟิวส์ ป้องกันให้สองชั้น ชุดที่หนึ่งสายไฟขั้วบวก ชุดที่สองภาพในกล่อง อุ่นใจได้หากกล่องเกินปัญหา

P Electronic ใช้กล่องอลูมิเนียมอย่างดี ทดความร้อนได้ดีกว่ากล่องที่เป็นพลาสติก เพราะอะไรถึงต้องเป็น อลูมิเนียม เพราะกล่องกรองไฟต้องติดตั้งอยู่ในห้องเครื่องที่มีความร้อนสูงอยู่ตลอดเวลาที่เครื่องยนต์ทำงาน ทำให้การกล่องที่เป็น อลูมิเนียม เป็นทางเลือกที่ดีดว่า เพราะกล่องกรองไฟ P Electronic ไม่ได้มีอายุแค่ปีสองปี แต่มีอายุเป็นสิบ ยีสิบปี ขึ้นไป

สายไฟเกรดความดี ทองแดง ล้วนๆ ไม่มีตะกั่วผสม เพื่อการนำไฟฟ้าที่สมบูรณ์ ไม่ติดขัด และสายที่เป็นสองสี ดำ และ แดง เพื่อป้องกันไม่ให้สับสนในการติดตั้ง และขั้วต่อแบบครีบปลา ต่อง่ายไม่ต้องคลายน๊อตหมด

กรองไฟเรามีให้เลือกซื้อ 3 รุ่น คุณภาพเหมือนกัน ต่างกันที่ความจุของกระแสไฟฟ้าเท่านั้นเองครับ คุณชอบรุ่นไหน คุณเลือก....

เลือกซื้อของ อย่ามองแค่ราคา... พิจารณาคุณภาพ กันสักนิดดด... นะครับ

www.pelectronic.net

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Facebook P Electronic Auto
โทร. 081-3021246 โอ Line : covinus
โทร. 093-9546324 ปุ๊ก Line : espadapuk

21


เหตุผลที่ว่า ติดกล่องไฟ P Electronic Oil แล้วทำให้การใช้งานของแบตเตอรี่และอุปกรณ์ไฟฟ้าได้ยาวนานขึ้น..?

เพราะกล่องไฟ P Electronic Oil จะไปช่วยเพิ่มค่า CCA ของแบตเตอรี่ให้มากขึ้น ค่านี้เป็นค่าที่บอกถึงกำลังไฟสำหรับการติดหรือการสตาร์ทเครื่องยนต์นั้นเอง ยิ่งค่าเยอะมากเท่าไหร่แบตเตอรี่ก็อยู่ได้นานขึ้น ในแบตเตอรี่จะมีค่ามิลลิโอห์มที่สูง ถ้าต้องคายประจุมากๆ ในครั้งเดียว จะทำให้เกิดความร้อนสูง และทำให้เสื่อมสภาพได้ไว กล่องไฟ P Electronic Oil ช่วยลดความต้านทานของแบตเตอรี่ หรือค่ามิลลิโอห์ม เมื่อต้องปล่อยประจุ ออกมาครั้งละมากๆ เกิดความร้อนน้อยกว่าเดิม

ในอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ถึงจะมีตัวกรองไฟในตัว แต่ก็ไม่ถึงกับดีมาก ในเวลาที่รถโหลดไฟมากๆ อาจทำให้เกิดไฟกระชากหรือไฟตกได้ ในระนะสั่นอาจจะไม่มีผลอะไรกับอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์มาก แต่ในระยะยาวอาจทำให้เกิดความเสียหายต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ได้ กล่องไฟ P Electronic Oil จะช่วยให้การจ่ายไฟจากต้นกำเนิดไฟฟ้าหลักนิ่งขึ้น และมีกำลังไฟที่จะจ่ายไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ มากขึ้น ช่วยกรองไฟความถี่ปะปนที่เกิดจากการทำงานของไดชาร์ท เพราะเหตุนี้อุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์จึงไม่เกิดความร้อนสะสม และเสื่อมสถาพช้าลงอีกด้วย

22


หลักการทำงาน
1. ในขณะที่เครื่องยนต์ทำงาน เครื่องกำเนิดไฟ้ฟ้าจะจับพลังงานกลแปลงเป็นพลังงานไฟฟ้า
2. พลังงานไฟฟ้าจะถูกเก็บไว้ในกล่องไฟ หรือตัวเก็บประจุไฟฟ้า
3. พลังงานที่อยู่ในกล่องไฟ จะได้รับการกรองกระแสให้เรียบเนียนขึ้น และมีกำลังมากขึ้น แล้วจ่ายกระแสไฟฟ้าอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ในรถยนต์ เช่นเครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียง ไฟหน้า ฯ

และส่งพลังงานอีกส่วนไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ 12V ได้อีก อีกทั้งยังช่วยยืดอายุแบตเตอรี่ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดภาระของเครื่องยนต์

โดยปรกติประสิทธิภาพเครื่องยนต์มักจะสูญเสียไปกับการจ่ายไฟให้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆประมาณ 10% เหลือ 90% สำหรับการขับเคลื่อนเทคโนโลยี P Electronic Oil จะช่วยให้ 10% ที่เสียไป มาใช้ในการขับเคลื่อนได้ 100%

P Electronic อุปกรณ์ช่วยกรองกระแสไฟฟ้าสำหรับยานยนต์ทุกชนิด การกรองความถี่ต่างๆ ที่ปะปนอยู่ในกระแสไฟฟ้า ช่วยในการรักษาระดับแรงดันไฟให้คงที่ และช่วยกักเก็บพลังงานไฟฟ้า

หลักการ P Electronic อุปกรณ์กรองกระแสไฟระบบไฟฟ้าต่างๆ ของรถยนต์ (DC Filter) ถูกออกแบบและพัฒนาต่อมาจากตัวกรองความถี่เครื่องเสียงในรถยนต์ โดยอาศัยหลักการที่คล้ายกัน แต่สำหรับกรองไฟรถยนต์นั้น ได้มีการออกแบบ วงจรพิเศษ เพื่อให้ลองรับกับกระไฟฟ้ามากได้ เพราะภายในรถมีอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์อยู่มากมาย โดยอาศัยไฟฟ้าจากแบตเตอรี่และไดชาร์จ เพื่อให้อุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ทำงาน แต่กระแสไฟฟ้าที่จากไดชาร์จที่ผลิตออกมานั้นจะมาพร้อมกับ การสร้างสนามแม่เหล็กซึ่งก็คือความถี่ที่เข้ามาประปนอยู่ในกระแสไฟฟ้านั่นเอง ในส่วนของแบตเตอรี่นั้นจะมีการพลังงานไฟฟ้าจำนวนมากอยู่แล้ว แต่แบตเตอรี่จะเก็บไฟได้ช้ามากส่งผลให้ไดชาร์จต้องทำงานหนักอยู่ตลอดเวลา ทำให้แรงดันไฟไม่คงที่ ก็ส่งผลให้ระบบไฟฟ้าอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ และในระยะยาวอาจก่อให้ผลเสียที่ตามมา ดังนั้นอุปกรณ์ช่วยในการกรองกระแสไฟจึงสามารถเข้ามาช่วยลดปัญหาในช่วนนี้ได้อย่างมากเลยทีเดียว

การทำงาน P Electronic อุปกรณ์กรองกระแสไฟ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของอุปกรณ์อิเลคทรอนิคส์ต่างๆ ภายในรถยนต์ การกรองความถี่ที่ปะปนอยู่ในระบบกระแสไฟฟ้าให้น้อยลงโดยความถี่นี้เกิดขึ้น จากทำงานของไดชาร์จ ที่ผลิตกระแสไฟเพื่อจ่ายให้กับแบตเตอรี่ เนื่องจากการทำงานของไดชาร์จขณะที่กำลังผลิตไฟออกมานั้นจะทำให้เกิด สนามแม่เหล็กซึ่งจะปะปนเข้ามาอยู่ในกระไฟฟ้านั่นเอง อายุการใช้งานแบตเตอรี่ยาวนานขึ้นกว่าเดิม จากการทำของอุปกรณ์กรองกระแสไฟ จะช่วยทำการเก็บกระแสไฟไว้ในตัวอุปกรณ์ส่วนนึง ทำการจ่ายกระแสไฟให้แบตเตอรี่ได้อย่างรวดเร็ว และทำหน้าที่แทนแบตเตอรี่ในการจ่ายเข้าระบบไฟฟ้าอิเลคทรอนิคส์ต่างๆ ไฟที่ได้จากอุปกรณ์กรองกระแสไฟนั้นจะมีแรงดันไฟที่คงที่  กระแสไฟที่ระบบไฟฟ้าหรืออุปกรณ์ต่างๆ ได้รับจะเป็นกระไฟที่สะอาด จะส่งผลให้การทำงานของระบบต่างๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วย เช่น การทำงานของระบบคอมพิวเตอร์สมองกลควบคุม (ECU) จะทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้การควบคุมการทำงานของเครื่องยนต์เผาไหม้ได้อย่างสมบูรณ์ ระบบการควบคุมต่างๆ ทำงานได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น เป็นต้น การรักษาระดับแรงดันไฟจะช่วยให้ เมื่อเวลาใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าหนักๆ (โอเวอร์โหลด) เช่น ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟตัดหมอก เครื่องเสียง กระจกไฟฟ้า แอร์ เครื่องยนต์ จะทำให้ไดชาร์จทำงานหนัก แบตเตอรี่จะจ่ายไฟที่หนักกว่าปกติ เมื่ออุปกรณ์เหล่านี้ทำงานพร้อมกันจะทำให้เกิดอาการไฟตก หรือไฟที่ไปเลี้ยงอุปกรณ์ต่างๆ นั้นไม่พอ ดังนั้นอุปกรณ์กรองกระแสไฟจะมาช่วยลดอาการในส่วนนี้ได้อีกด้วย ช่วยให้รักษาระดับแรงดันไฟฟ้าไม่ให้โหลดไปมากกว่าที่ควรจะเป็น

เลือกซื้อของ อย่ามองแค่ราคา... พิจารณาคุณภาพ กันสักนิดดด... นะครับ กล่องกรองไฟ คุณภาพ ต้อง P Electronic เท่านั้น... นะครับ

23
กล่องเพิ่มกำลังไฟให้ระบบรถยนต์ P Electronic Oil Super DC Filter ช่วยให้ เครื่องยนต์เดินเรียบ เงียบ อัตราเร่งดี ประหยัด



กล่องเพิ่มกำลังไฟ เจ้าเดียวที่ให้ความจุและกำลังไฟเริ่มต้นที่ 3,000,000 ไมโครฟารัด และมากที่สุดถึง 30,000,000 ไมโครฟารัด และเป็นเทคโนโลยีรุ่นใหม่ วัสดุอุปกรณ์ทุกชิ้นนำเข้าจากต่างประเทศ กล่องไฟเพิ่มกำลังไฟได้รับการออกแบบคิดค้นและพัฒนาจากฝีมือคนไทย ที่อยู่วงการอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องเสียงรถยนต์มากว่า 30 ปี จัดเต็มด้วยวัสดุที่มีคุณภาพ ทดทานและมีขนาดเล็กแต่สามารถเก็บประจุไฟฟ้าอย่างมหาศาล และจ่ายกระแสไฟฟ้าได้อย่ารวดเร็ว เราจัดให้ อยากรอบไว ระบบไฟนิ่ง ซิ่งได้เต็ม Limit ยกหน้าที่นี้ให้ P Electronic Oil จัดการ

โดยกล่องเพิ่มกำลังไฟ P Electronic Oil จะแบ่งออกเป็น 4 รุ่น ดังนี้



- P Electronic Oil Super DC Filter รุ่น P1530F
- สำหรับรถยนต์ที่ต้องการกำลังไฟที่แรงและมีคุณภาพ รองรับกับขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 3200cc ที่มีกระบอกสูบไม่เกิน 12 สูบ รองรับอุปกรณ์เสริมที่ต้องการกำลังไฟฟ้า เช่น ไฟซีนอน ชุดเครื่องเสียงขนาดใหญ่ กล่องจูน กล่องดันราง และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เหมาะกับรถแต่งมีการใช้ไฟฟ้าหนักๆ
- ให้ความจุกระแสไฟอยู่ที่ 30,000,000 ไมโครฟารัด (30 ฟารัด)
- ราคา 3800 บาท ส่ง EMS + 100 บาท
- ประกัน 2 ปี
- ดูสินค้าเพิ่มเติม www.facebook.com/PElectronicAuto/shop



- P Electronic Oil Super DC Filter รุ่น E1512F
- สำหรับรถยนต์ที่ต้องคุณภาพของกำลังไฟในระดับที่ดี รองรับกับขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 2500cc ที่มีกระบอกสูบไม่เกิน 6 สูบ รองรับอุปกรณ์เสริมที่ต้องการกำลังไฟฟ้า เช่น ไฟซีนอน ชุดเครื่องเสียงขนาดกลาง กล่องจูน กล่องดันราง และอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ เหมาะกับรถแต่งมีการใช้ไฟฟ้าในระดับนึง
- ให้ความจุกระแสไฟอยู่ที่ 12,000,000 ไมโครฟารัด (12 ฟารัด)
- ราคา 2600 บาท ส่ง EMS + 100 บาท
- ประกัน 1 ปี
- ดูสินค้าเพิ่มเติม www.facebook.com/PElectronicAuto/shop



- P Electronic Oil Super DC Filter รุ่น E1505F
- สำหรับรถจักรยานยนต์ต้องการกำลังไฟแรงในอีกระดับ รองรับกับเครื่องยนต์ไม่เกิน 2400cc ที่มีกระบอกสูบไม่เกิน 4 สูบ เหมาะกับรถเดิมๆ และอุปกรณ์ที่ต้องการกำลังไฟฟ้าที่ไม่เยอะมาก เครื่องเสียงขนาดเล็ก ติดตั้งได้ทั้ง รถมอเตอร์ไซค์ และ รถบิ๊กไบค์ เท่านั้น
- ให้ความจุกระแสไฟอยู่ที่ 5,000,000 ไมโครฟารัด (5 ฟารัด)
- ราคา 1800 บาท ส่ง EMS + 80 บาท
- ประกัน 1 ปี
- ดูสินค้าเพิ่มเติม www.facebook.com/PElectronicAuto/shop



- P Electronic Oil Super DC Filter รุ่น E1503F
- สำหรับ รถจักรยานยนต์ขนาดเล็ก ที่มีขนาดเครื่องยนค์ไม่เกิน 150cc
- ให้ความจุกระแสไฟอยู่ที่ 3,00,000 ไมโครฟารัด (3 ฟารัด)
- ราคา 800 บาท ส่ง EMS + 80 บาท
- ประกัน 1 ปี
- ดูสินค้าเพิ่มเติม www.facebook.com/PElectronicAuto/shop





คุณสมบัติเด่นของ P Electronic Oil
- รักษาแรงดันไฟให้คงที่ ไม่ให้ตก ไม่ให้เกิน ไม่ให้เกิดการกระชาก
- กรองค่าความถี่และสัญญาณรบกวนที่ปะปนอยู่ในกระแสไฟหลัก
- เก็บประจุไฟฟ้าได้เร็วกว่าแบตเตอรี่ถึง 40 เท่า
- จ่ายไฟได้เร็วกว่าแบตเตอรี่ถึง 40 เท่า
- สั่งจ่ายกระแสไฟไปยังอุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ให้เหมาะสมกับการทำงาน
- ไม่มีการตัดต่อหรือยุ่งเกี่ยวกับสายไฟใดๆ ทั้งสิ้น ติดตั้งง่ายไม่ต้องจูนให้เสียเวลา

ผลที่ได้รับหลังจากติดตั้ง P Electronic Oil
- การตอบสนองของคันเร่งดีกว่าเดิม รู้สึกได้ถึงคันเร่งที่ตึงขึ้น (รถที่เป็นระบบคันเร่งไฟฟ้า)
- การตอบสนองของเกียร์แม่นยำขึ้น การเปลี่ยนเกียร์สมูทมากขึ้น (เกียร์ออโต้)
- เครื่องยนต์มีกำลังมากขึ้น (การฉีดน้ำมันเป็นฝอยมากขึ้น ไฟที่หัวเทียนแรงขึ้น)
- เครื่องยนต์เดินเรียบและเงียบกว่าเดิม (การจุดระเบิดและการเผาไหม้ที่สมบูรณ์)
- สามารถลากรอบเครื่องยนต์ได้สูงขึ้น (เช่น จากเดิมลากสุดได้ที่ 3000 รอบ หลักติดกล่อง สามารถลากได้ถึง 4000 - 5000 หรือมากกว่านั้น)
- จังหวะการต่อเกียร์สมูทขึ้น (รอบไม่ตกมากเหมือนก่อนติดกล่อง)
- ระบบไฟฟ้าภายในรถยนต์เสถียรมากขึ้น
- ไดชาร์จทำงานน้อยลง (แบตเตอรี่เก็บพลังงานไฟฟ้าไวขึ้น)
- อุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ทำงานดีขึ้น (ไฟไม่ตก ไม่กระชาก ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ไม่เกิดความร้อนสะสม)
- ระบบไฟเครื่องเสียงทำงานดีขึ้นกว่าเดิม (ระบบไฟกำลังมากขึ้น และไม่ถูกดึงไปใช้ส่วนใดส่วนหนึ่งเป็นพิเศษ)

- ติดตั้งง่าย ไม่ต้องตัดต่อสายไฟ ไม่ต้องจูน คุณเองก็ทำได้

[youtube]PaKxCNCSjlo[/youtube]

[youtube]4jdR3n74vFM[/youtube]

[youtube]IvfGf0TNQL4[/youtube]

[youtube]QJkVYaZRX2g[/youtube]

ลักษณะพิเศษของกล่องกรองไฟ P Electronic ที่ไม่เหมือนใคร

กล่องแต่ละรุ่นได้รับออกแบบและพัฒนา ให้เหมาะสมแก่การใช้งาน ตามขนาดของเครื่องยนต์ ภายในกล่องจะมีวงจรพิเศษเฉพาะของ P Electronic ไว้ควบคุมการกระแสไฟ จาก Super Capacitor ให้เก็บและจ่ายกระแสไฟได้เรียบ เร็ว เสถียรกว่า แบบที่ไม่มี วงจร ควบคุม ทำให้กระแสไฟที่ออกมาไม่มีสัญานหรือคลื่นรบกวน ช่วยให้กระแสไฟที่จ่ายไปเต็ม 100% และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

ทำไม P Electronic ถึงเลือกใช้ Super Capacitor เพราะรถยนต์ในปัจจุบันเกือบทั้งคันควบคุมด้วยระบบไฟฟ้า โดนใช้ระบบสมองกลควบคุมหรือที่เรียกว่า ECU เช่น เครื่องยนต์ ระบบเบรค คันเร่งไฟฟ้า แอร์ และะอื่นๆ เป็นต้น ทำให้การ Capacitor Electrolytic รุ่นเก่าที่ทำได้แค่การกรองกระแสไฟอย่างเดียว เวลาติดตั้งในรถยนต์อาจจะไม่เห็นผลในระบบอื่นๆ นอกจากเครื่องเสียงชุดเล็ๆ เครื่องเสียงที่เป็นชุดใหญ่จัดเต็มอาจจะเอาไม่อยู่เหมือนกัน ทำให้ Super Capacitor มีความสามารถมากกว่าแค่การกรองแสไฟ เช่น การเก็บประจุไฟฟ้ากว่าเป็นพันเท่าทำให้เวลาที่รถเราใช้ไฟหนักๆ ไม่เกิดอาการไฟตกไฟวูบ การเก็บและจ่ายกระแสไฟรวดเร็วเรียบเนียนกว่า ทดกับความสูงเพราะกล่องต้องติดตั้งในห้องเครื่อง อายุการใช้งานที่ยาวนานเป็นสิบๆปี ประหยัดเนื้อที่ในการกระกอบเพราะใช้ Cap จำนวนน้อยกว่าแต่ได้ความจุที่มากกว่า เป็นต้น Super Capacitor ต่อตัวมีราคาที่สูงมากเมื่อเที่ยบ Capacitor แบบธรรมดา สามารถซื้อ Capacitor ได้เป็นร้อยตัวต่อ Super Capacitor หนึ่งตัวนั่นเอง

[youtube]n3GFOgKDbnA[/youtube]

ทำไม P Electronic ถึงต้องให้ วงจรพิเศษ มาควบคุม เนื่องจากการใช้ Super Capacitor ต่อกันเป็นจำนวนมากเพื่อให้ได้ค่า ฟารัด ที่มาก ทำให้เกิดการจ่ายกระแสไฟเข้า Cap นั้นช้ามาก กระแสไฟที่ไม่นิ่ง และค่า ฟารัด ที่ไม่คงที่ เวลาดับเครื่องจะคายกระแสไฟออกมาเลื่อยๆ ทำให้แบตตเตอรี่ต้องชาร์จไฟเข้ากล่องตลอดเวลา นั้นเป็นข้าด่อยจากรุ่นทดลอง ดังนั้น P Electronic จึงได้คิดค้นและพัฒนา วงจรพิเศษ ขึ้นมาเพื่อนแก้ข้อด่อยต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทำให้เก็บกระแสไฟมีความรวดเร็วและเสถียรมากยิ่งขึ้น การจ่ายไฟไปยังระบบต่างได้เร็วเรียบเนียนยิ่งขึ้น ดักการคายกระแสไฟในขณะดับเครื่อง ทำให้แบตเตอรี่ไม่ต้องจ่ายไฟที่ไม่จำเป็น เพราะเหตุนี้แบตเตอรี่จึงมีอายุการใช้งานที่ยาวนานขึ้นนั่นเอง

อุปกรณ์กรภายในกล่องมีความแตกต่างและพิเศษกว่า เนื่องจากอุปกรณ์ทุกชิ้นได้มีการคิดค้นและออกแบบขึ้นมาโดยเฉพาะ สั่งผลิตและนำเข้าอุปกรณ์ทุกชิ้นจากต่างประเทศ คัดสรรวัสดุที่ดีที่สุด เพื่อให้สินค้าที่จำหน่ายมีคุณภาพสูงที่สุด ทำให้ กรองไฟ PElectronic มี คุณภาพสูง กว่า เมื่อเทียบกับราคา

เลือกซื้อของอย่ามองแค่ราคา... พิจารณาคุณภาพ กันสักนิดดด... นะครับ



สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
Facebook P Electronic Auto
โทร. 081-3021246 โอ Line : covinus
โทร. 093-9546324 ปุ๊ก Line : espadapuk
PElectronic

24



คำถามที่ว่า "แค่ใส่วงจรเข้าไป ทำไมถึงดีขึ้นได้" ตามความเห็นของผม ไฟนิ่งกว่าอุปกรณ์อิเล็คฯทำงานได้ผิดพลาดน้อยกว่าปกติพวกเซนเซอร์ หรืออุปกรณ์อิเลคฯแบบต่างๆ ตามสเปคมันจะมีค่าผิดพลาดบอกอยู่ครับ ซึ่งจะเป็นค่าที่ผู้ใช้ยอมรับได้แต่ถ้าเราช่วยทำให้อุปกรณ์พวกนี้มันทำงานแบบผิดพลาดได้น้อยที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ มันจะไม่ดีกว่าเหรอครับ ยิ่งผิดพลาดน้อยเท่าไหร่ผมว่ามันก็น่าจะยิ่งส่งผลดีกับระบบเครื่องยนต์โดยรวมนะ


ไฟที่รถใช้เป็นหลักตอนรถวิ่งจะมาจากไดชาร์ต ยิ่งรอบเครื่องยนต์สูงสัญญาณรบกวนจะยิ่งเยอะ เพราะกระแสไฟเกิดจาก การเหนี่ยวนำของขดลวด ไม่เหมือนกระแสไฟที่มาจากแบตฯตอนดับเครื่องที่แทบจะไม่มีสัญญาณรบกวนไม่ใช่แค่ไดชาร์ตอย่างเดียวที่สร้างสัญญาณรบกวนมาในระบบ ยังมีไฟสูงตอนจุระเบิด คอมแอร์ พัดลมมอร์เตอร์ต่างๆ ด้วย


ข้างในกล่อง Filter มันใส่ Super Capacitor ไปด้วย ตัวเล็กแต่ทำได้ความจุเยอะ มีค่าเป็น 1,000,000 ไมโครฟารัด คนที่เค้าสร้างวงจรนี้ขึ้นมา โจทย์ของเค้าก็คืออยากได้ไฟที่นิ่ง เหมือนที่ได้จากแบตฯตอนไม่ได้ติดเครื่องยนต์แล้วทำไมคนเราอยู่ดีๆถึงอยากให้ไฟรถตัวเองนิ่ง เพราะเค้าเป็นคนที่อยู่ในวงการเครื่องรถยนต์ ทดลองทำกันมาเกือบ 10 ปี จนสุดท้ายเค้าก็ได้วงจรที่ทำงานจนที่น่าพอใจคือ กระแสไฟตอนติดเครื่องยนต์มันนิ่งพอๆกันตอนดับเครื่องแต่ว่าจุดเปลี่ยนมันอยู่ตรงที่ใช้กรองไฟแล้วดันรู้สึกว่ารถแรงขึ้น ประหยัดขึ้น แอร์เย็นขึ้น ไฟหน้าสว่างขึ้น เกียร์ Smooth ขึ้นให้คนอื่นลองก็ได้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน


ส่วนที่ถามว่ามันจะมีผลเสียกับรถเรารึป่าว อันนี้ตามความเห็นของผมนะครับ วงจรประเภท Passive ปกติจะเป็นผู้รับครับ ไม่ได้เป็นส่งหรือขยายสัญญาณรบกวนใดๆออกไปรบกวนวงจรในส่วนอื่นได้ครับ ถ้าตัวมันจะเสียหรือจะมีปัญหาปกติวงจร R L C ตัวที่จะเสียก็เป็น C นี่แหล่ะ บางทีให้แรงดันเกินก็ระเบิดได้ ทำให้เกิดกรณี Open circuit หรือเสื่อมค่า ก็จะส่งผลให้วงจรกรองไฟไม่ได้ตามสเปคแค่นั้น โอกาสที่จะเกิดกรณี Short circuit จากวงจรประเภทนี้มันแทบจะไม่มี บางกรณีที่ C มันเกิดการ Shot circuit แล้วกระแสไหลผ่านตัวมันได้เต็มที่จนทำให้ R รับกระแสเกินกำลังวัตต์ที่มันจะรับได้ เจ้า R ก็จะขาดแล้วเกิดการ Open circuit อยู่ดี ก็จะเหมือนกับการไม่ได้ต่อวงจรอะไรเข้าไปในรถก็แค่นั้น


โทร. 081-9105586 ปุ๊ก
Line : espadapuk
https://www.facebook.com/PElectronicPuk
http://pelectronicpuk.lnwshop.com/

25



ระบบไฟฟ้ามีความสำคัญต่อ ECU อย่างไร


ในปัจจุบัน ECU จะไม่ควบคุมเพียงแค่ การจ่ายน้ำมันเชื้อเพลิง และ การจุดระเบิดเท่านั้น ECU ยังสามารถ ที่จะควบคุมระบบต่างๆ อาทิเช่นระบบปรับความยาวท่อร่วมไอดีแปรผัน ระบบวาล์วแปรผัน การทำงานของคอมเพรสเซอร์แอร์ พัดลมระบายความร้อน ระบบควบคุมไอน้ำมันเชื้อเพลิง เป็นต้น   ECU สามารถที่จะจัดการให้อุปกรณ์ต่างๆ ทำงานสัมพันธ์กันได้ กระแสไฟ dc ในรถก็สำคัญ ถ้าหากสม่ำเสมอกระแสไฟสม่ำเสมอ และไฟตกเป็นบางช่วง มีผลต่อการทำงานของ ECU กันเลยรถที่ออกจากโรงงานก็แน่นอนว่าเขาทำมาเพื่อให้พอใช้ได้ อะไรที่ตัดออกได้โดยที่มันไม่เกิดปัญหาในระยะสั้นเขาก็ไม่ติดให้คุณหรอกครับ แล้วเราจะทำยังไงเพื่อให้กระแสไฟไปเลี้ยง ECU อย่างสม่ำเสมอ ง่ายๆ แค่คุณติดตั้งกล่องกรองไฟ คำถามที่ว่า "แค่ใส่กล่องกรองไฟเข้าไป ทำไมถึงดีขึ้นได้" ไฟนิ่งทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และยังส่งผลให้เครื่องยนต์ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิง มีกำลังที่สูงขึ้น ยืดอายุการใช้งาน มีการตอบสนองได้อย่างรวดเร็ว และลดมลภาวะที่ปล่อยออกมา เป็นต้น ถึงแม้กล่องกรองไฟจะไม่ได้รถคุณเร็วเหมือนการจูนกล่อง ECU หรือคันเร่งไฟฟ้า แต่เชื่อเถอะว่ารถที่คุณรักจะอยู่กับคุณไปอีกนาน


โทร. 081-9105586 ปุ๊ก
Line : espadapuk
https://www.facebook.com/PElectronicPuk
http://pelectronicpuk.lnwshop.com/

26



เกร็ดความรู้เรื่อง ระบบไฟที่สงสัยกัน


โดยปกติอุปกรณ์จำเป็นมาตรฐานที่ติดตั้งมากับรถยนต์นั้น มีอัตราการกินกระแสที่เป็นสัดส่วน ดังต่อไปนี้ (เป็นอัตราเฉลี่ยในรถขนาดแตกต่างกัน ถ้ารถขนาดใหญ่ก็อาจกินกระแสมากกว่ารถ ขนาดเล็ก)


- ไฟหน้าใหญ่ 15-20 A


- ไฟป้อนเข้าระบบจุดระเบิดเครื่องยนต์ 10 A


- ไฟสำหรับที่ปัดน้ำฝน 15-20 A


- ไฟดวงต่างๆ 1 A ต่อหลอด


- ไฟสำหรับระบบปรับอากาศ 25-35 A


ถ้าเราเป็นนักสังเกตบ้างเล็กน้อยเมื่อถอยรถออกจากโชว์รูม จะเห็นได้ว่าแบตเตอรี่ที่ติดตั้งมา กับรถนั้น มีขนาดแค่พอเหมาะประมาณ 35-45 แอมแปร์ นั่นก็เพราะเขาคิดมาตรฐานเอาจากค่า การใช้กระแสมาตรฐานจากไฟหน้า, ไฟระบบเครื่องยนต์ และไฟอื่นๆ โดยบางครั้งยังไม่นับรวมถึง ไฟที่ใช้สำหรับระบบปรับอากาศด้วยซ้ำไป เวลาใช้รถตอนกลางคืนที่ฝนตกหนักๆ แค่เปิดไฟหน้าและที่ปรับน้ำฝนพร้อมกับระบบปรับ อากาศ จะสังเกตเห็นไฟหรี่ภายในรถมีอาการวูบวาบแล้ว บางท่านที่พอรู้เรื่องรู้ราวบ้างก็จัดการ เปลี่ยนแบตเตอรี่ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็น 50-65 แอมแปร์ อาการดังกล่าวก็ไม่เกิดขึ้นอีกต่อไป การเปลี่ยนแบตเตอรี่นั้นอาจถูกต้องในบางเรื่องแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะจะต้องคำนึงถึง ‘ไดชาร์จ’ หรืออัลเตอเนเตอร์ด้วย ถ้าไดชาร์จมีขนาดแรงดันกระแสขาออกแค่เพียง 35 A โดยทางทฤษฎีมันจะมีความเหมาะสมเพื่อใช้กับแบตเตอรี่ขนาด 35 A เท่านั้น ถ้าใช้แบตเตอรี่ เพิ่มเป็นขนาด 50 A ไดชาร์จจะต้องทำอย่างหนักเพื่อพยายามเติมไฟให้เต็มแบตเตอรี่ 50 A โดยไม่มีการเรียกใช้ไฟจากระบบไฟรถยนต์เลยถ้ายังต้องเปิดไฟหน้า หรือเปิดเครื่อง ปรับอากาศในระหว่างที่ไดชาร์จกำลังเติมไฟให้แบตเตอรี่ กระแสไฟที่แบตเตอรี่ก็จะไม่มี วันเต็มได้เลยถ้าคิดอัตราเฉลี่ยในการเติมไฟแบตเตอรี่ของไดชาร์จโดยไม่มีการโหลดจากระบบไฟรถยนต์ ไดชาร์จขนาด 35 A จะเติมไฟให้เต็มแบตเตอรี่ขนาด 50 A ได้ในเวลาเกือบๆ 2 ชั่วโมง ซึ่งแน่นอนว่าขณะที่ทำการปั่นไดชาร์จด้วยเครื่องยนต์เพื่อเติมไฟให้เต็มแบตเตอรี่ระบบเครื่องยนต์ก็จะกินไฟ 10 A อยู่ตลอดเวลา ระยะเวลาจึงยิ่งนานเข้าไปอีก ยิ่งถ้ามีการเปิดระบบปรับอากาศด้วยก็ยิ่งนานขึ้นอีกในปัจจุบันเทคโนโลยีด้านระบบเสียงรถยนต์มีความเจริญก้าวหน้าอย่างมากจากกำลังขยายเพียงแค่ไม่กี่วัตต์ในสมัยก่อน กลายมาเป็นกำลังขยายในระดับพัน-สองพันวัตต์ในปัจจุบัน สิ่งหนึ่งที่ผู้คนทั้งหลายต่างมองข้ามกันไปก็คงเป็นเรื่องของ ‘กำลังไฟ’ ที่จะป้อนจ่ายให้กับอุปกรณ์ระบบเสียงหลายท่านไม่ทราบว่าจะต้องคำนวณการกินกระแสของระบบได้อย่างไร

การเพิ่มขนาดของแบตเตอรี่เพียงอย่างเดียวอาจไม่ใช้ทางแก้ปัญหา การเรียกกำลังไฟจากรถยนต์ที่ถูกต้องโดยปกติเราต้องใช้ไดชาร์จที่มีขนาดกระแสขาออกได้มากกว่าความต้องการของ กระแสรวมประมาณ 20% และ 40-50% ถ้าค่ากระแสขาออกนั้นบอกมาในหน่วย Cold152

1. สายไฟแรงดันที่ขั้วบวก หรือขั้วลบที่ลงกราวน์ อาจมีขนาดเล็กเกินไปเมื่อ เทียบกับจำนวนของกระแสที่ไหลผ่าน

2. เกิดอิมพีแดนซ์อย่างรุนแรงในจุดต่อยึดบางจุดของสายไฟแรงดัน/หรือขั้วกราวน์ อาทิ ขั้วแบตเตอรี่เสื่อม, มีการต่อสายไฟแรงดันอย่างหลวมๆ ไม่บัดกรี, ขันหัวขั้วแบตเตอรี่ไม่แน่น, ยึดหัวขั้วไฟกราวน์ไม่แน่น, ไม่ขูดสีตัวถังให้สะอาด หรือกราวน์ไม่ สมบูรณ์

3. ขนาดของแบตเตอรี่ไม่เพียงพอที่จะจ่ายกระแสไฟให้กับระบบเสียง หรือมีความจะของกระแสที่แบตเตอรี่น้อยเกินไป

4. แบตเตอรี่มีการคายประจุที่เร็วมาก (ผิดปกติ) หรือไม่ก็แผ่นแซลในแบตเตอรี่เกิดความเสียหาย (เปลี่ยนใหม่)แล้วเช็คด้วย VOM อีกครั้ง

5. แบตเตอรี่มีขนาดพอเพียงกับการจ่ายกระแส แต่ว่าตัว ‘ไดชาร์จ’ ให้ขนาดกระแสขาออกน้อยเกินไป หรือไม่สามารถจ่ายกระแสได้มาพอต่อการประจุแบตเตอรี่ให้เต็มได้ กรณีแบบนี้ค่าแรงดันที่วัดได้จากแบตเตอรี่จะต่ำกว่า 12 โวลท์ เมื่อทำการตรวจวัดในขณะดับเครื่องยนต์

จึงอาจต้องระวังเรื่องนี้ในการสับเปลี่ยนไดชาร์จ นอกจากนั้นยังพบว่าไดชาร์จและ การประจุกำลังไฟของรถยนต์มีความแตกต่างกันในรถแต่ละคัน บางระบบสามารถจ่าย กระแสออกมาได้เต็มที่เมื่อเครื่องยนต์ทำงานขณะที่บางระบบจะจ่ายกระแสก็ต่อเมื่อ เครื่องยนต์มีรอบปั่นสูงๆ ซึ่งความแตกต่างนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่พึงระวังโดยหลักการแล้วไดชาร์จถูกคิดค้นและสร้างขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ 2 ประการ คือ

1. เพื่อผลิตและแจกจ่ายกระแสไฟให้กับอุปกรณ์ไฟฟ้าในรถยนต์ เมื่อเครื่องยนต์ เริ่มทำงาน

2. เพื่อจ่ายกระแสไฟไปกักเก็บเอาไว้ที่แบตเตอรี่ เพื่อนำกลับมาใช้ในสตาร์ตเครื่องยนต์

เราสามารถอธิบายถึงลักษณะการทำงานของไดชาร์จไดด้วยทฤษฎีพื้นฐานทางอีเล็กโทรนิกได้ว่ากระแสไฟจะไหลจากแหล่งกำเนิดที่มีค่าศักยภาพสูงที่สุดไปยังจุดที่มีศักยภาพต่ำที่สุดซึ่งคล้ายกับน้ำที่จะไหลจากที่สูงลงสู่ที่ต่ำดังนั้นเพื่อให้เรามั่นใจถึงการประจุไฟให้กับแบตเตอรี่ได้อย่างเต็มที่นั้น เราจะต้องรักษาระดับแรงดันไฟขาออกของไดชาร์จให้สูงกว่าค่าปกติของแบตเตอรี่ ซึ่งก็คือ 12.8 โวลท์ และด้วยวิธีนี้แบตเตอรี่จะไม่ถูกใช้งานจนกว่าจะมีการสตาร์ตเครื่องยนต์อีกครั้งหนึ่งและนี่คือ”แก่นการทำงานของระบบไฟฟ้าในรถยนต์”นั่นเอง


โทร. 081-9105586 ปุ๊ก
Line : espadapuk
https://www.facebook.com/PElectronicPuk
http://pelectronicpuk.lnwshop.com/

27



ระบบไฟแบตเตอรี่ สำคัญต่อเครื่องเสียงอย่างไร


เหล่าบรรดานักเล่นเครื่องเสียงบ้าน ให้ความสำคัญกับระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าอย่างยิ่งยวด มากจนน่าแปกใจ ออกจะติดไปทางงงๆด้วย ไม่รู้ว่าควรจะทำอะไร ตรงไหนก่อน และเลือกยี่ห้ออะไรดี  สายไฟ ปลั๊กไฟ เต้าเสียบ แผ่นปิดเต้าเสียบ หัวเสียบ ท้ายที่จะเสียบเข้ากับอุปกรณ์เครื่องเสียงของเรา เครื่องกรองไฟ อื่นๆ อีกมากมาย แต่ละยี่ห้อ แต่ละวัสดุที่ใช้ทำล้วนส่งผลต่อเสียงทั้งสิ้น แค่ปลั๊กไฟติดผนังอย่างเดียวเป็นหมื่นบาทก็มี


กลับกัน ในรถยนต์ หลายคนเองก็ไม่ได้ให้ความสำคัญกับเครื่อง สายไฟ หรือแบตเตอรี่เท่าไหร่ แบตยังใช้ลูกเดิม ทำให้ในระบบ เกิดเสียง noise ค่อยข้างดังลอดออกมาจากลำโพง และต้องหาทางแก้  เมื่อให้ช่างเช็ค ก็จบที่ว่า ระบบไฟต้องแก้ไข เมื่อติดกรองไฟเข้าไป เสียงรบกวนก็หายเป็นปลิดทิ้ง และทำให้รู้ว่า มันทำให้เสียงดีขึ้น อย่างเห็นได้ชัด


ในรถยนต์มีหลายๆท่าน ก็ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ แต่ก็มีนักเล่นเครื่องเสียงรถยนต์อีกมาก ที่ไม่ได้นึกถึงเรื่องระบบไฟ หรือบางท่าน จัดลำดับไว้เป็นลำดับท้ายๆ ในการเลือกอุปกรณ์


หลายท่านคงเคยประสบปัญหา การติดตั้งเครื่องเสียงราคาแพงว่า ก่อนติดตั้งก็ลองฟัง อยู่ที่ร้านได้คุณภาพเสียงสุดยอด แต่พอตัดสินใจลงทุนติดตั้งไปแล้ว ทำไมคุณภาพเสียงมันไม่ใช่เลย หนึ่งในเหตุผลที่สำคัญ ก็เป็นด้วยเรื่องทางระบบไฟฟ้านั่นเอง เพราะในห้องลองเสียงของร้านติดตั้งนะ ใช้ไฟบ้านมาผ่านวงจรจ่ายไฟ เพื่อแปลงแรงดัน แล้วจึงใช้เป็นแหล่งจ่ายไฟ ให้กับเครื่องเสียงนั้น แต่แหล่งพลังงานไฟฟ้าในรถยนต์จริง จะได้มาจากไดชาร์จ ซึ่งมีคุณสมบัติแตกต่างออกไป อีกทั้งในรถยนต์ ยังมีอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ที่ใช้ไฟฟ้าจากแหล่งเดียวกัน เช่น ระบบจุดระเบิดเครื่องยนต์, กล่องหัวฉีด, ระบบกันขโมย, แตรไฟฟ้า, ไฟหน้า, ไฟกระพริบฉุกเฉิน, พัดลมแอร์, ขดลวดไล่ฝ้า ฯลฯ ซึ่งมีผลต่อคุณภาพไฟฟ้า ภายในรถยนต์ อันส่งผลกระทบต่อคุณภาพของระบบเสียง


จะแบ่ง 3 ตอน ได้แก่


- ความสำคัญของแบตเตอรี่ต่อเครื่องเสียงในรถยนต์


- การเลือกแบตเตอรี่ให้เหมาะสม


- แบตเตอรี่สำหรับเครื่องเสียงรถยนต์


ความสำคัญของแบตเตอรี่ เพราะเคยได้ยินมาว่า พอสตาร์ทเครื่องยนต์ติดแล้ว จะถอดแบตฯ ออกก็ได้ เครื่องก็ไม่ดับแล้ว เพราะเหตุใดจึงจะมีความเกี่ยวข้อง กับเครื่องเสียงได้ ก็จะต้องกล่าว ถึงระบบไฟฟ้าในรถยนต์กันก่อน แน่นอนว่าต้นกำเนินพลังงานทั้งหมด จะต้องมาจากเครื่องยนต์ ต่อสายพานมาหมุนเครื่องกำเนิดไฟฟ้า แต่ก่อนจะเรียกว่า อัลเตอร์เนเตอร์ แต่เรียกกันโดยทั่วไปว่า ไดชาร์จ ไดชาร์จถือเป็นต้นกำเนิดของพลังงานไฟฟ้า ทั้งหมดในรถยนต์ หากมีการติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม เช่น เครื่องเสียง ไฟสปอร์ตไลท์ ฯลฯ ก็จำเป็นจะต้อง เพิ่มขนาดของไดชาร์จขึ้น ไม่งั้นไฟตกและเครื่องเสียงอาจเสียได้


ส่วนแบตเตอรี่เป็นแหล่งสะสมทั้งงาน (ไม่ได้เป็นตัวกำเนิด ดังนั้นเมื่อจ่ายไฟฟ้าออกไป ก็จะมีพลังงาน ลดลง) มีหน้าที่หลักคือ ใช้ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ และมีหน้าที่รองคือ เป็นแหล่งพลังงานไฟฟ้าใน ขณะที่เครื่องยนต์ ไม่ได้ทำงาน และแบตเตอรี่ยังเป็นตัว ทำให้ระบบไฟฟ้า มีคุณภาพ และเสถียรภาพ ดีขึ้น คือเป็นตัวดูดขับแรงดันกระชาก เพราะในรถยนต์อาจมี อุปกรณ์ไฟฟ้าตัวใดตัวหนึ่ง ก่อให้เกิดแรงดันกระชาก โดยเฉพาะในรถยนต์เบนซิน ที่มีการสร้างแรงดันสูงหลายพันโวลท์ เพื่อใช้ในการจุดระเบิด หากไม่มีแบตเตอรี่ต่ออยู่ อาจทำให้เกิดแรงดันกระชาก ที่มีโวลท์สูง จนทำให้เครื่องเสียง ได้รับความเสียหายได้ นอกจากนี้แล้วแบตเตอรี่ ยังช่วยในการจ่ายกระแส กระชากด้วย ในกรณีที่ติดเครื่องเสียง กำลังสูง เพราะเสียงกลองหรือเบส จะทำให้มีการดึง กระแสอย่างมาก ในเวลาอันรวดเร็ว อาจถึง 60 แอมป์ ในเวลาเพียง 1 มิลลิวินาที ถึงแม้ว่าไดชาร์จ ที่ใช้จะมีขนาด 150 แอมป์ ก็ตาม แต่ไดชาร์จประกอบด้วยขดลวด ซึ่งมีคุณสมบัติต่อต้าน การเปลี่ยนแปลง อย่างรวดเร็ว ของกระแสไฟฟ้า (จะสังเกตได้ว่าสายไฟบวกของ เครื่องเสียงติดรถยนต์ จะนิยมใช้ขดลวดต่ออนุกรมไว้ เพื่อลดกระแสกระชากจาก การจุดหัวเทียน) ทำให้ไดชาร์จไม่สามารถ จ่ายกระแสได้ทัน เพื่อขับเสียงกลอง เป็นผลให้แรงดันไฟตก (สังเกตได้ว่า ไฟหน้าปัทม์จะหรี่ลง ตามจังหวะเสียงกลองนั้น) และคุณภาพของเสียง ย่อมเสียไปอย่างแน่นอน เนื่องจากแบตเตอรี่ ถูกต่อไว้ในระบบ แบตเตอรี่จะทำการ จ่ายกระแสไฟออกทุกครั้ง ที่มีเสียงกลอง จะทำให้อายุการใช้งาน ของแบตเตอรี่ลดลง เพราะแบตเตอรี่รถยนต์ ถูกออกแบบมาเพื่อ ใช้ในการสตาร์ทเครื่องยนต์ ซึ่งใช้เวลาประมาณ 1-3 วินาที วันละประมาณ 2-5 ครั้งโดยเฉลี่ย เมื่อมาเจอกับเสียงกลอง หลายร้อยครั้งต่อหนึ่งเพลง ย่อมจะทำให้แบตเตอรี่มีอายุการใช้งาน น้อยลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ความประหยดไม่ใช่ประเด็นสำคัญนัก สิ่งที่นักเล่นเครื่องเสียงจะต้องสูญเสียคือ คุณภาพเสียงจากเครื่องเสียง ราคาเรือนแสนที่ถ่อมตัวลงมา ดังนั้นยิ่งแบตเตอรี่มีความสามารถ ในการจ่ายกระแส กระชากได้ดีเท่าไหร่ ยิ่งมีผลดีต่อคุณภาพเสียงเท่านั้น


แล้วคาปาซิเตอร์ล่ะทดแทนได้ไหม? คำตอบคือ ได้ แต่ต้องใช้คาปาซิเตอร์กี่ร้อยฟารัด เพื่อเก็บพลังงาน ให้เท่ากับแบตเตอรี่หนึ่งลูก



โทร. 081-9105586 ปุ๊ก
Line : espadapuk
https://www.facebook.com/PElectronicPuk
http://pelectronicpuk.lnwshop.com/

28



CCA คือหัวใจของแบตเตอรี่รถยนต์


ในการผลิตแบตเตอรี่รุ่นใหม่ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยมากขึ้น พร้อมทั้งมีการเรียนรู้มากขึ้นว่าแบตเตอรี่สำหรับการสตาร์ทเครื่องยนต์ หัวใจอยู่ที่กำลังในการสตาร์ท   (CCA = Cold Cranking Amps ) หรือแปลเป็นไทยให้เข้าใจได้ง่าย ๆ ก็คือ ความสามารถในการจ่ายกระแสไฟฟ้ากระชาก สูงสุด ) เพราะเวลาสตาร์ทเครื่องยนต์มอเตอร์สตาร์ทจะกระชากกระแสไฟฟ้าจำนวนมาก จากแบตเตอรี่ (แต่ใช้เวลาเพียงแค่ 1-5 วินาที) ซึ่งคิดกลับเป็นความจุไฟฟ้าเพียงเล็กน้อย แต่แบตเตอรี่ต้องสามารถจ่ายได้  และสิ่งที่อยู่เบื้องหลังความสามารถนี้ของแบตเตอรี่ก็คือ ความต้านทานไฟฟ้า (Internal Resistance = IR )  และปัจจัยมีมีผลต่อความต้านทานไฟฟ้าที่แตกต่างกันก็คือ ความหนาแน่นของแผ่นธาตุ(ซึ่งแผ่นแบบหล่อไม่สามารถทำให้แน่นเพิ่มขึ้นได้ ) และ พื้นที่ผิวสัมผัสต่อสารเกิดปฏิกิริยาไฟฟ้า และ ความเข้มข้นของน้ำกรด  ดังนั้นแผ่นธาตุจึงใช้เทคนิคการรีด (ทำให้กำหนดความหนาแน่นแผ่นธาตุได้ )


ดัง นั้นแบตเตอรี่รุ่นใหม่ ๆ จึงอาจจะมีจำนวนแผ่นธาตุเท่าๆ กัน แต่ CCA แตกต่างกัน ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละราย  บางรายอาจจะทำให้แผ่นธาตุมีความหนาแน่นสูง ๆ และ สูงกว่า แต่มีจำนวนแผ่นน้อยลง  บางรายอาจจะทำให้แผ่นเตี้ยกว่า แต่มีจำนวนมากกว่า ก็เป็นได้  ดังนั้น ในแบตเตอรี่รุ่น ใหม่ ๆ จำนวนแผ่นธาตุจึงมิใช่สาระสำคัญอีกต่อไปครับ แต่จะแตกต่างกันที่ CCA ที่จะต้องมีให้เพียงพอต่อความต้องการของรถยนต์ 


ซึ่งค่านี้เป็นการคำนวณแบบคราว ๆ นะครับ ซึ่งค่าที่ได้เป็นค่าอย่างน้อยที่แบตเตอรี่ต้องมี สำหรับการจะสตาร์ทเครื่องยนต์  ซึ่งถ้าไปเช็คตามร้านทั่วไปที่ไม่มีเครื่องมือพิเศษ ก็อาจจะบอกว่าแบตฯเสื่อมหรือไม่ก็จะจับแบตฯไปทำการ ชาร์จ ถ้าหลังจากชาร์จแล้ว ยังเหมือนเดิมก็แสดงว่า แบตฯเสื่อมสภาพ แต่ใน ปัจจุบัน มีเครื่องมือพิเศษเป็นอุปกรณ์ทีใช้ในการวัดประสิทธิภาพของแผ่นธาตุใน แบตเตอรี่ ว่ายังมีสภาพพร้อมที่จะทำปฎิกิริยากับน้ำกรดเพื่อสร้างกระแสไฟ ให้เกิดค่ากำลังไฟครับหรือไม่เพราะมีหลายท่านอาจจะพบว่า นำแบตฯไปชาร์จจนโวลท์เต็ม ขนาด 12.6-12.8 โวลท์แล้ว แต่ทำไมยังไม่สามารถสตาร์ทรถติดได้ นั้นก็ เพราะแผ่นธาตุนั้นมีซัลเฟตเกาะหรือเสื่อมแล้ว ไม่สามารถสร้างกระแสไฟได้ หรือบางครั้งเราลืม เปิดไฟหรื่ค้างคืนไว้ พอเช้ามาสตาร์ทรถไม่ติด ถ้าไปเข็คตามร้านทั่วไป อาจจะบอกว่าแบตหมด เสื่อมแล้ว เพราะเขาวัด แต่เฉพาะโวลท์ของแบต ไม่สามารถวัดค่า cca ได้ ซึ่งถ้าใช้เครื่องวัดเครื่องจะแจ้งว่า good recharge หมายถึง สภาพแผ่นธาตุยังคงใช้งานได้แต่ค่าโวลท์นั้นต่ำลง (เพราะเราลิมเปิดไฟค้างคืนไว้) ถ้าเรานำไป recharge ใหม่ก็จะใช้งานได้ดังเดิม  เช่น แบตฯรุ่น ปิกอัพ ขนาด 70 แอมป์ หรือท้องตลาดจะเรียกว่า รุ่น  NS70 z นั้น ตามระบบสากลเรียกรุ่นนี้ว่า รุ่น 75D 31 ซึ่งมีค่ามาตรฐาน CCA ต้องไม่ต่ำกว่า 380 แอมป์ ซึ่งถ้าใช้อุปกรณ์วัดค่า CCA แล้วพบว่า ต่ำกว่ามาตรฐาน อย่างน้อย 20% เครื่องจะเตือนและแจ้งว่า ควรที่จะเปลี่ยนแบตฯใหม่ได้แล้ว เพราะมิฉะนั้นท่านอาจจะพบเหตุ แบตหมดได้ในวันใดวันหนึ่ง ดังนั้นจะเห็นว่า ค่าโวลท์ หรือ ค่า ถ.พ.น้ำกรดนั้น มิได้เป็นตัวบอกว่าแบตลูกนั้นจะใช้งานได้ดีหรือไม่เสมอไปการวัดค่าต่างๆ ในตัวแบตเตอรี่มีหลายค่า ที่ต้องวัดเพื่อทราบถึงประสิทธิภาพของ การทำงานของแบตเตอรี่สรุปนะครับ  ตรวจเช็คแบตเตอรี่รถยนต์ครั้งต่อไป อย่าลืมให้ช่างเช็คค่า CCA ของแบตเตอรี่เพื่อความสะดวก ปลอดภัยในการใช้รถยนต์(เราควรบันทึกค่า CCA ของแบตลูกนั้นเป็นประวัติด้วย มันจะลดค่าลงเรื่อยๆ ครับ

โทร. 081-9105586 ปุ๊ก
Line : espadapuk
https://www.facebook.com/PElectronicPuk
http://pelectronicpuk.lnwshop.com/

29



รถคุณใช้อุปกรณ์เหล่าอยู่หรือไม่  ?


แบตเตอรี่ให้กำลังไฟเพียงพอต่อความต้องการของอุปกรณไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ของแล้วจริง....หรอ


คุณเคยสังเกตไหมเวลาขับรถตอนกลางคืน ทำไมไฟส่องทางถึงกระพริบ บางที่ก็เห็นไฟรถคันที่สวนมากระพริบ นั่นแหละครับ คืออาการไฟตก ยิ่งรถยนต์สมัยใหม่เรียกได้ว่าใช้ระบบไฟ 80% ของทั้งตัวรถกันเลยทีเดียว และอุปกรณ์เสริมต่างๆ ที่ดึงไฟกันเป็นว่าเล่นโดยที่คุณไม่รู้ตัว เช่น กล้องติดรถ ไฟซีนอน ไฟเดย์ไลท์ GPS ที่ชาร์จมือถือ ฯ เป็นต้น สาเหตุที่ทำให้เกิดไฟตก แล้วระบบต่างๆ จะเป็นไรไหม แรกๆ อาจไม่มีปัญหาอะไร ก็เหมือนของใช้ในบ้านที่โดนฟ้าผ่าหรือไฟตกบ่อยๆ ก็อาจจะเกิดอาการรวน ทำให้ต่างมีปัญหาได้


มีวิธีไหนไหมที่จะช่วยเรื่องอาการไฟตก หรือการจ่ายไฟไม่เพียงพอ เราช่วยคุณได้ ติดกล่องน้ำมันอิเล็กทรอนิกส์ P Electronic Oil สิครับ เรากำลังไฟที่มากกว่า สินค้าเราเน้นที่คุณภาพ ใช้งานได้จริง

โทร. 081-9105586 ปุ๊ก
Line : espadapuk
https://www.facebook.com/PElectronicPuk
http://pelectronicpuk.lnwshop.com/

30


อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์สุดรักของเรา ไม่ว่าจะเป็น ชุดเครื่องเสียง, กล่อง ECU, อุปกรณ์วงจรไฟฟ้าต่างล้วนต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงานทั้งสิ้นและก็ไฟฟ้านี่เช่นกันที่บางครั้งกลายเป็นต้นเหตุที่ทำให้อุปกรณ์ของเราให้เสียหายได้ การป้องกันเครื่องไม้เครื่องมือเราจากปัญหาเหล่านี้ก็คงไม่พ้น "ตัวกรองไฟ" ทั้งที่จริงๆมันมีระบบการทำงานที่มากกว่าแค่กรองไฟ

อุปกรณ์เหล่านี้มักมีชื่อเรียกในหลายรูปแบบ เช่น กล่องกรองไฟ, กล่องเรียงกระแสไฟ, เครื่องคุมไฟ  จะเรียกแบบใดก็ไม่น่าจะผิดเพราะหลักการทำงานทั่วไปจะเหมือนๆกันคือ
- ป้องกันสัญญาณรบกวนที่มาจากสายส่ง และจากอุปกรณ์ต่างๆ
- ป้องกันการลัดวงจร
- ป้องกันไฟกระชาก
- ป้องกันอันตรายจากไฟตก ไฟเกิน และไฟติดๆ ดับๆ
- ปรับระดับแรงดันไฟให้ราบเรียบและนิ่ง

คุณสมบัติโดยทั่วไปจะไม่พ้นหัวข้อข้างต้น แต่จะมีเพิ่มลูกเล่นต่างๆมาตามรุ่นที่ใหญ่และแพงขึ้น เช่นทนกำลังไฟได้มากกว่าในกรณีลัดวงจร มีระบบFilterในการกรองสัญญาณรบกวนี่ดีขึ้น

บางคนอาจจะเคยได้ยินว่ามันทำให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์เราดีขึ้นด้วย อันนี้เรื่องจริงยิ่งกับพวกอุปกรณ์จำพวกสายกราวด์ ไฟจากแบตเตอรี่ไม่เพียงพอต่อความต้องการ ส่งผลให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของเราทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แต่พอมาผ่าน "ตัวกรองไฟ" ที่คุณภาพดีๆแล้ว บางทีต้องตกใจกับคุณภาพที่ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยทีเดียว

ก็ลองตัดสินใจดูว่ามันคุ้มค่ากับการลงทุนมั้ยเพื่อปกป้องและเพิ่มประสิทธิภาพให้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในรถยนต์ของเราให้มีอายุการใช้งานที่ยืนยาวคุ้มค่ากับเม็ดเงินที่เราลงทุนกันไปครับ

โทร. 081-9105586 ปุ๊ก
Line : espadapuk
https://www.facebook.com/PElectronicPuk
http://pelectronicpuk.lnwshop.com/

31
ใช้แบตเตอรี่อย่างดีแล้วยังต้องใช้กรองไฟอีกหรอ



เคยได้ยินบ่อยๆว่า แบตเตอรี่อย่างดีแพงๆ ไม่ต้องใช้กรองไฟก็ได้

แบตเตอรี่
- กระแสไฟไม่อั่น ปลดปล่อยได้เต็มที่
- ไม่ได้ช่วยกรองขยะในระบบไฟฟ้า และถ้ามีปัญหาเรื่องระบบไฟ ทุกสิ่งอย่างจะวิ่งเข้าวงจรไฟฟ้าอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทันที

กล่องกรองไฟ
- ป้องกันปัญหาเกี่ยวกับระบบไฟ ประเภท ไฟตก ไฟเกิน ไฟกระชากได้ กรองขยะและสัญญาณรบกวนต่างๆในระบบไฟ ช่วยให้ระบบทำงานเนียนขึ้น
- การจ่ายกระที่สเถียร และคุณภาพมากกว่า

สิ่ง ที่ได้เรียนรู้มาก็คือ เครื่องกรองไฟดีๆเวลาใส่เข้าไปในระบบ มันช่วยทำให้อุปกรณ์ที่ใช้ไฟฟ้าทำงานได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด เมื่อเทียบกับการต่อตรงจากแบตเตอรี่แล้ว ระบบการทำงานดีกว่า

บวกลบกันแล้ว การติดกล่องกรองไฟคุ้มค่ากว่ามาก

ข้อสังเกตอีกอย่างคือ บางคนที่แต่งรถติดอุปกรณ์ที่ใช้ไฟแล้วมีปัญหาซ่อมบ่อย ใช้แล้วไม่ทนทาน พอแนะนำให้ใช้กล่องกรองไฟ แล้วไม่ค่อยมีปัญหา แสดงว่าปัญหาเรื่องระบบไฟนั้นมีผลต่ออุปกรณ์มากจริงๆ

ช่วงหลัง เรียนตามตรง เวลาเห็นรถแต่งที่ใส่ไฟเยอะ เครื่องเสียงแพงๆ แล้วไม่ใส่กล่องกรองไฟ ผมเสียวแทนเจ้าของรถทุกที

หลายท่านบอกว่าอุปกรณ์ที่ติดแพงๆ อย่างดีทั้งนั้น ทนทาน เสียยาก ผมเห็นด้วย แต่ก็ควรจะดูคุณภาพไฟแบตเตอรี่ว่ามันเพียงพอกับอุปกรณ์ที่ท่านติดเสริมมามากน้อยขนาดไหน

แรงดันไฟวูบวาบระดับนี้บั่นทอนอายุการใช้งาน อุปกรณ์มีคุณภาพระดับไหนก็เถอะเจอแบบนี้บ่อยๆ ไม่เสียสุขภาพก็แปลกแล้วล่ะ
ท่าน

ขออนุญาต แนะนำกันตรงนี้ว่ากล่องกรองไฟ ควรมีติดรถไว้ ไม่ว่าอุปกรณ์หรือรถของท่านจะราคาเท่าไรก็ตาม คุณได้มากกว่าเสียแน่นอนครับ

โทร. 081-9105586 ปุ๊ก
Line : espadapuk
https://www.facebook.com/PElectronicPuk
http://pelectronicpuk.lnwshop.com/

32
จำหน่ายกรองไฟ P Electronic Oil รุ่น P1530F



พิเศษราคา 3,800 บาท จากปกติ 4,500 บาท  ฟรีค่าจัดส่ง EMS

โทร. 081-9105586 ปุ๊ก
Line : espadapuk
https://www.facebook.com/PElectronicPuk
http://pelectronicpuk.lnwshop.com/

สินค้ารับประกับ 2 ปี ไม่พอใจยินดีคืนเงินเต็มจำนวนภายใน 7 วัน
กล่องมีปัญหาเปลี่ยนใหม่ให้ทันที **ห้ามแกะหรือรื้อกล่องเด็ดขาด**



รายละเอียดกล่อง P Electronic Oil

1. เครื่องยนต์เดินเรียบและส่งผลให้เสียงการทำงานของเครื่องยนต์ลดลง ให้การทำงานอยู่ในค่าที่สมดุล ไดชารต์สามารถชาร์ตไฟเข้าแบตเตอรีได้ดี ทำให้ไม่เกิดอาการไฟตก และเพิ่มการจ่ายไฟให้เต็มประสิทธ์ภาพ

2. สามารถยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ สามารถวัดได้การค่า (CCA) ที่เพิ่มขึ้น  คือ ค่ากำลังไฟ ที่จ่ายออกมาได้สูงสุดตอนสตาร์ท

3. สามารถควบคุมการจุดระเบิดและการเผาไหม้ได้ดีมากยิ่งขึ้น ทำให้มีอัตราเร่งดีขึ้น สามารถเพิ่มความเร็วโดยการกดคันเร่งเท่าเดิม แต่ได้ความเร็วที่เพิ่มขึ้น

4. ระบบเกียร์อัตโนมัติ ที่ใช้ชุดสมองเกียร์ (ECU) ในการควบคุมการสั่งงาน สามารถทำงานได้สมบูรณ์แบบ เพิ่มมากยิ่งขึ้น ลดภาวะการกระตุก เป็นผลมาจากการที่ (ECU) ได้รับสัญญาณไฟที่สะอาดและเป็นระเบียบมากกว่าเดิม ในทุกช่วงของการทำงาน

5. ระบบเกียร์อัตโนมัติและแบบธรรมดา สามารถทำให้การ คิกดาวน์ (Kick Down) ได้อย่างต่อเนื่องและกระชับ เพิ่มความสนุกในการขับขี่ และมีความปลอดภัย

6. ช่วยให้เครื่องยนต์ ทำงานได้เหมือนใหม่ ลดการสั่นของเครื่องยนต์ และการจุดระเบิดทำงานได้แม่นยำมากยิ่งขึ้น ทำให้เครื่องยนต์สั่นลดลง ซึ่งมาจากแบตเตอรี่ในรถยนต์กระไฟไม่เพียงพอ รถยนต์สตาร์ทติดง่าย

7. ช่วยเพิ่มแรงบิด (Torque) และแรงม้า (Horse Power) โดยสามารถเพิ่มได้ถึง 20-30% มาจากการเผาไหม้ที่สมบูรณ์ ทำให้ประหยัดน้ำมันเชื้อเพลิงมากขึ้น 15-20% (ขึ้นอยู่กับลักษณะการขับขี่และสภาพการจราจร)

8. ช่วยให้ระบบคันเร่งไฟฟ้าตอบสนองและทำให้อัตราเร่งดีมากยิ่งขึ้น รถไม่อืดในความเร็วต้นๆ และไหลลื่นในความเร็วปลาย ทำให้เหยียบคันเร่งน้อยลง เป็นเพราะระบบไฟมีความเสถียรมากกว่าเดิม เครื่องยนต์จึงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ

9. ระบบทำความเย็น (แอร์) เย็นฉ่ำมากขึ้น ทันตาเห็น แม้เปิดอุณหภูมิที่ต่ำก็ตาม ทำให้ลดการใช้เชื้อเพลิง และลดความร้อนสะสมในเครื่องยนต์ ที่เกิดมาจากการทำงานของแอร์ เป็นผลให้ ได้ความประหยัดน้ำมันอย่างเห็นได้ชัด

10. ช่วยให้ระบบไฟส่องสว่าง ไฟหน้า ไฟท้าย ไฟในห้องโดยสาร สว่างมากยิ่งขึ้น ทำให้การเดินทางในยามค่ำคืน ปลอดภัยและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาหลอดไฟต่างๆ

11. ช่วยให้เครื่องเสียง มีคุณภาพเสียงที่ดีขึ้น อุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ที่ใช้ไฟฟ้าจากแหล่งเดียวกันที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพของระบบเสียง เช่น ระบบจุดระเบิดเครื่องยนต์, กล่องหัวฉีด, ระบบกันขโมย, แตรไฟฟ้า, ไฟหน้า, ไฟกระพริบฉุกเฉิน, พัดลมแอร์, ขดลวดไล่ฝ้า ฯลฯ ซึ่งมีผลต่อคุณภาพไฟฟ้า


หน้า: 1